• 🌿พ่อครูสอนศิษย์....🌿
    💛💛💛💛💛
    🌿คำว่า “การกระทำ” กับ “กรรม” — สองถ้อยคำ แต่คือความจริงเดียวกัน
    ในภาษาไทย เราเรียกสิ่งที่เราทำลงไปว่า การกระทำ
    ในภาษาบาลี เขาใช้คำว่า กรรม
    แต่เมื่อนำมาใช้กับชีวิตในทางโลกแล้ว ทั้งสองคำ คือสิ่งเดียวกัน
    — สิ่งที่เราทำลงไป และผลที่ย้อนกลับมา
    และในทุกลมหายใจของมนุษย์ การกระทำแบ่งเป็น 3 ระดับเสมอ:
    1. การกระทำทางกาย
    2. การกระทำทางวาจา
    3. การกระทำทางใจ
    ไม่มีสิ่งใดเกินออกนอกสามเส้นทางนี้เลย
    และ กฎของกรรมที่แท้จริง ก็เรียบง่ายอย่างน่ากลัว:
    • ทำทางกาย → ได้ผลทางกาย
    • ทำทางวาจา → ได้ผลทางวาจา
    • ทำทางใจ → ได้ผลทางใจ
    เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องศาสนา แต่เป็น “โครงสร้างของชีวิตมนุษย์” ทั้งหมด
    ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
    💛💛💛💛💛
    🌏 1. การกระทำทางกาย — โลกแห่งของจริงที่จับต้องได้
    นี่คือโลกของวัตถุ
    โลกที่ตาเห็น จับต้องได้ วัดผลได้ พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
    ไม่ว่าจะใช้แรง ใช้มือ ใช้พลัง ใช้ความสามารถ
    ผลที่ได้จะกลับคืนมาที่กายเสมอ
    คนที่ “ลงมือทำจริง” จึงย่อมเห็นผลจริง
    คนที่ “ไม่ทำแต่หวังผล” ย่อมเห็นผลเท่ากับความว่างเปล่า
    มนุษย์จำนวนมากลืมความจริงนี้
    หวังจะเห็นผลจากสิ่งที่ ยังไม่ได้ลงมือทำ
    นี่คือจุดแรกที่ชีวิตเดินหลงทาง
    💛💛💛💛💛
    💬 2. การกระทำทางวาจา — โลกของความเชื่อที่พาให้ชีวิตเคลื่อน
    วาจาเป็นสะพานระหว่างโลกกายภาพกับโลกความคิด
    และแบ่งออกเป็น 2 ทิศทางใหญ่ ๆ:
    2.1 วาจาทางโลก
    เช่น
    • การเจรจา
    • การสื่อสาร
    • การพูดสร้างงาน
    • การต่อรอง
    • การให้คำสัญญา
    วาจาเหล่านี้สร้างทั้ง “ความร่วมมือ” หรือ “การแตกหัก”
    ทุกคำที่พูดสร้างรอยบนหัวใจคนเสมอ ไม่มีคำใดไร้ผล
    2.2 วาจาเหนือวัตถุ
    เช่น
    • สวดมนต์
    • ภาวนา
    • คาถา
    • คำอธิษฐาน
    • คำตั้งจิต
    ในโลกนี้…
    บางคนหัวเราะกับสิ่งเหล่านี้
    บางคนศรัทธาในสิ่งเหล่านี้ยิ่งกว่าชีวิต
    แต่ไม่ว่าสายไหนก็ตาม วาจามีพลังทั้งนั้น
    เพราะวาจา คือสิ่งที่ “ตั้งความคิดให้ชัด”
    และคิดชัดเมื่อไร การกระทำก็เดินตามไปเมื่อนั้น
    💛💛💛💛💛
    🧠 3. การกระทำทางใจ — โลกแห่งอารมณ์ ความเชื่อ และจิตใต้สำนึก
    นี่คือโลกที่มองไม่เห็น
    แต่ควบคุมทุกการกระทำในชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ตื่นจนหลับ
    และแบ่งเป็น 2 เส้นทางสำคัญ:
    💛💛💛💛💛
    🔹 3.1 ความเชื่อแบบที่ 1 — เชื่อเช่นไร ได้เช่นนั้น
    นี่คือความเชื่อที่ถูกด่าว่า “งมงาย” บ่อยที่สุด
    แต่แท้จริงเป็นรากฐานของจิตมนุษย์ทุกคน
    คนที่เชื่อว่า “ฉันทำได้”
    → จะขยับตัวอย่างคนที่ทำได้
    → พูดเหมือนคนที่ทำได้
    → สุดท้ายก็ทำได้จริง
    คนที่เชื่อว่า “ฉันไม่มีวันสำเร็จ”
    → จะคิดแบบคนแพ้
    → ทำแบบคนแพ้
    → และพ่ายแพ้จริง
    และที่น่าขบคิดคือ
    ผู้ที่ด่าคนอื่นว่างมงาย ก็มีความงมงายในแบบของตัวเองอยู่ลึก ๆ
    เพียงแต่ไม่ยอมรับ
    ลองสังเกตดูดี ๆ จะพบว่า…
    มนุษย์ทุกคนมี “ความเชื่อไร้เหตุผล” ของตัวเองทั้งนั้น
    คำถามคือ
    งมงายของคุณ… พาคุณไปสู่ความสำเร็จ
    หรือพาคุณถอยหลังทุกวัน?
    💛💛💛💛💛
    🔹 3.2 ความเชื่อแบบที่ 2 — เชื่อตามสิ่งภายนอก
    คือความเชื่อที่เกิดจากการพึ่งพา
    • ลัทธิ
    • คำสอน
    • ศาสนา
    • ผู้รู้
    • ผู้นำ
    • หนังสือ
    • คำพูดของใครบางคน
    เป็นความเชื่อที่เกิดจาก “เขาว่า” มากกว่า “ฉันว่า”
    และเมื่อเชื่อภายนอกมากเกินไป
    มนุษย์จะแยกไม่ออกว่า อะไรคือแก่นแท้ของชีวิตของตนเอง
    นี่จึงเป็นเหตุว่า
    แม้โลกจะมีคำกล่าวว่า “ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี”
    แต่คนจำนวนมากกลับใช้ศาสนาเป็นเหตุทะเลาะ
    ยกตนข่มท่าน
    ให้ร้ายกัน
    ทำสงคราม
    และสร้างความทุกข์ด้วยสิ่งที่ควรจะนำไปสู่สันติ
    ทั้งที่จริงแล้ว…
    ศาสนาไม่เคยรบกันเลย มีแต่มนุษย์ต่างหากที่รบกันเอง
    💛💛💛💛💛
    🌕 บทสรุปที่ต้องใช้ “สติ” อ่านอีกครั้ง
    มนุษย์ทุกคน…
    ไม่ว่าจะเชื่อแบบไหน
    ทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ
    ล้วนหนีไม่พ้น “กรรม”
    เพราะกรรมคือการกระทำ
    และผลของการกระทำย่อมย้อนกลับมาหาเราเสมอ
    คำถามที่ควรตั้งสติให้แน่วแน่คือ:
    • วันนี้คุณทำอะไรลงไป?
    • คุณพูดอะไรออกไป?
    • คุณคิดอะไรอยู่ในใจจริง ๆ ?
    • ความเชื่อของคุณกำลังพาคุณไปข้างหน้า หรือถ่วงชีวิตคุณเอาไว้?
    • คุณกำลังก่อกรรมด้วย “สติ” หรือ “หลงเชื่อโดยไม่ตรวจสอบตัวเอง”?
    และที่สำคัญที่สุด…
    คุณกำลังเป็นคนสร้างชีวิตของตัวเอง
    หรือกำลังปล่อยให้ความเชื่อของคนอื่นมาสร้างชีวิตให้คุณ?
    คำถามนี้…
    ตอบได้เฉพาะคนที่กล้าหยุดคิดอย่างจริงใจ
    💛 จากใจ... พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
    💛 ID Line: aj.jiaranai
    🌿พ่อครูสอนศิษย์....🌿 💛💛💛💛💛 🌿คำว่า “การกระทำ” กับ “กรรม” — สองถ้อยคำ แต่คือความจริงเดียวกัน ในภาษาไทย เราเรียกสิ่งที่เราทำลงไปว่า การกระทำ ในภาษาบาลี เขาใช้คำว่า กรรม แต่เมื่อนำมาใช้กับชีวิตในทางโลกแล้ว ทั้งสองคำ คือสิ่งเดียวกัน — สิ่งที่เราทำลงไป และผลที่ย้อนกลับมา และในทุกลมหายใจของมนุษย์ การกระทำแบ่งเป็น 3 ระดับเสมอ: 1. การกระทำทางกาย 2. การกระทำทางวาจา 3. การกระทำทางใจ ไม่มีสิ่งใดเกินออกนอกสามเส้นทางนี้เลย และ กฎของกรรมที่แท้จริง ก็เรียบง่ายอย่างน่ากลัว: • ทำทางกาย → ได้ผลทางกาย • ทำทางวาจา → ได้ผลทางวาจา • ทำทางใจ → ได้ผลทางใจ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องศาสนา แต่เป็น “โครงสร้างของชีวิตมนุษย์” ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม 💛💛💛💛💛 🌏 1. การกระทำทางกาย — โลกแห่งของจริงที่จับต้องได้ นี่คือโลกของวัตถุ โลกที่ตาเห็น จับต้องได้ วัดผลได้ พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะใช้แรง ใช้มือ ใช้พลัง ใช้ความสามารถ ผลที่ได้จะกลับคืนมาที่กายเสมอ คนที่ “ลงมือทำจริง” จึงย่อมเห็นผลจริง คนที่ “ไม่ทำแต่หวังผล” ย่อมเห็นผลเท่ากับความว่างเปล่า มนุษย์จำนวนมากลืมความจริงนี้ หวังจะเห็นผลจากสิ่งที่ ยังไม่ได้ลงมือทำ นี่คือจุดแรกที่ชีวิตเดินหลงทาง 💛💛💛💛💛 💬 2. การกระทำทางวาจา — โลกของความเชื่อที่พาให้ชีวิตเคลื่อน วาจาเป็นสะพานระหว่างโลกกายภาพกับโลกความคิด และแบ่งออกเป็น 2 ทิศทางใหญ่ ๆ: 2.1 วาจาทางโลก เช่น • การเจรจา • การสื่อสาร • การพูดสร้างงาน • การต่อรอง • การให้คำสัญญา วาจาเหล่านี้สร้างทั้ง “ความร่วมมือ” หรือ “การแตกหัก” ทุกคำที่พูดสร้างรอยบนหัวใจคนเสมอ ไม่มีคำใดไร้ผล 2.2 วาจาเหนือวัตถุ เช่น • สวดมนต์ • ภาวนา • คาถา • คำอธิษฐาน • คำตั้งจิต ในโลกนี้… บางคนหัวเราะกับสิ่งเหล่านี้ บางคนศรัทธาในสิ่งเหล่านี้ยิ่งกว่าชีวิต แต่ไม่ว่าสายไหนก็ตาม วาจามีพลังทั้งนั้น เพราะวาจา คือสิ่งที่ “ตั้งความคิดให้ชัด” และคิดชัดเมื่อไร การกระทำก็เดินตามไปเมื่อนั้น 💛💛💛💛💛 🧠 3. การกระทำทางใจ — โลกแห่งอารมณ์ ความเชื่อ และจิตใต้สำนึก นี่คือโลกที่มองไม่เห็น แต่ควบคุมทุกการกระทำในชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ตื่นจนหลับ และแบ่งเป็น 2 เส้นทางสำคัญ: 💛💛💛💛💛 🔹 3.1 ความเชื่อแบบที่ 1 — เชื่อเช่นไร ได้เช่นนั้น นี่คือความเชื่อที่ถูกด่าว่า “งมงาย” บ่อยที่สุด แต่แท้จริงเป็นรากฐานของจิตมนุษย์ทุกคน คนที่เชื่อว่า “ฉันทำได้” → จะขยับตัวอย่างคนที่ทำได้ → พูดเหมือนคนที่ทำได้ → สุดท้ายก็ทำได้จริง คนที่เชื่อว่า “ฉันไม่มีวันสำเร็จ” → จะคิดแบบคนแพ้ → ทำแบบคนแพ้ → และพ่ายแพ้จริง และที่น่าขบคิดคือ ผู้ที่ด่าคนอื่นว่างมงาย ก็มีความงมงายในแบบของตัวเองอยู่ลึก ๆ เพียงแต่ไม่ยอมรับ ลองสังเกตดูดี ๆ จะพบว่า… มนุษย์ทุกคนมี “ความเชื่อไร้เหตุผล” ของตัวเองทั้งนั้น คำถามคือ งมงายของคุณ… พาคุณไปสู่ความสำเร็จ หรือพาคุณถอยหลังทุกวัน? 💛💛💛💛💛 🔹 3.2 ความเชื่อแบบที่ 2 — เชื่อตามสิ่งภายนอก คือความเชื่อที่เกิดจากการพึ่งพา • ลัทธิ • คำสอน • ศาสนา • ผู้รู้ • ผู้นำ • หนังสือ • คำพูดของใครบางคน เป็นความเชื่อที่เกิดจาก “เขาว่า” มากกว่า “ฉันว่า” และเมื่อเชื่อภายนอกมากเกินไป มนุษย์จะแยกไม่ออกว่า อะไรคือแก่นแท้ของชีวิตของตนเอง นี่จึงเป็นเหตุว่า แม้โลกจะมีคำกล่าวว่า “ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี” แต่คนจำนวนมากกลับใช้ศาสนาเป็นเหตุทะเลาะ ยกตนข่มท่าน ให้ร้ายกัน ทำสงคราม และสร้างความทุกข์ด้วยสิ่งที่ควรจะนำไปสู่สันติ ทั้งที่จริงแล้ว… ศาสนาไม่เคยรบกันเลย มีแต่มนุษย์ต่างหากที่รบกันเอง 💛💛💛💛💛 🌕 บทสรุปที่ต้องใช้ “สติ” อ่านอีกครั้ง มนุษย์ทุกคน… ไม่ว่าจะเชื่อแบบไหน ทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ล้วนหนีไม่พ้น “กรรม” เพราะกรรมคือการกระทำ และผลของการกระทำย่อมย้อนกลับมาหาเราเสมอ คำถามที่ควรตั้งสติให้แน่วแน่คือ: • วันนี้คุณทำอะไรลงไป? • คุณพูดอะไรออกไป? • คุณคิดอะไรอยู่ในใจจริง ๆ ? • ความเชื่อของคุณกำลังพาคุณไปข้างหน้า หรือถ่วงชีวิตคุณเอาไว้? • คุณกำลังก่อกรรมด้วย “สติ” หรือ “หลงเชื่อโดยไม่ตรวจสอบตัวเอง”? และที่สำคัญที่สุด… คุณกำลังเป็นคนสร้างชีวิตของตัวเอง หรือกำลังปล่อยให้ความเชื่อของคนอื่นมาสร้างชีวิตให้คุณ? คำถามนี้… ตอบได้เฉพาะคนที่กล้าหยุดคิดอย่างจริงใจ 💛 จากใจ... พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ 💛 ID Line: aj.jiaranai
    1
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
  • 🌗 “สายขาว–สายดำ” แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพเปรียบ… ไม่ใช่แก่นของความเชื่อ
    มนุษย์มักแบ่งวิชาออกเป็นสองขั้ว
    • สายขาว = ไม่ทำร้ายตน ไม่ทำร้ายผู้อื่น
    • สายดำ = ใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แม้จะแลกด้วยความเดือดร้อนของใครก็ตาม
    แต่ความจริงแล้ว… ทั้งหมดนี้คือเพียง “ฉลาก” ที่มนุษย์สร้างขึ้นตามความเชื่อของตน
    เพื่อจัดระเบียบโลกให้ตนเองเข้าใจง่ายขึ้น
    มากกว่าจะสะท้อนความจริงของจิตใจมนุษย์
    เพราะในชีวิตจริง
    แสงกับเงามักซ้อนทับกัน
    คนที่บอกว่าตนเป็นสายขาว อาจหลงผิดทำร้ายคนอื่นด้วยความปรารถนาดี
    และคนที่ถูกเรียกว่าสายดำ อาจมีศรัทธาลึกซึ้งในสิ่งที่ตนทำ
    ดังนั้น “สายขาว–สายดำ” เป็นเพียง ความหมายที่สังคมมอบให้
    ไม่ใช่ความหมายที่ความจริงมอบให้
    🌼🌼🌼🌼🌼
    🌿 วิชาที่พ่อครูเจียระไนถ่ายทอด — ไม่จัดอยู่ในสายใดสายหนึ่งเลย
    ศาสตร์ วิชา และหลักสูตรที่พ่อครูถ่ายทอดทั้งหมด
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังจิต ญาณ เทียน น้ำมนต์ หรือโหราศาสตร์ใด ๆ
    มิได้ตั้งอยู่บนฐานของสายขาว–สายดำเลยแม้แต่น้อย
    เพราะวิชาเหล่านี้ ไม่มุ่งหวังให้ใครเดือดร้อน
    ไม่ก่อผลเสียแก่ตน
    ไม่ก่อโทษแก่ผู้อื่น
    ไม่ใช่เครื่องมือเพื่อชัยชนะเหนือใคร
    ไม่ใช่เส้นทางที่บังคับให้ผู้เรียนต้องไปเป็นอะไร
    ทั้งหมดนี้คือ
    “ความเชื่อ–ความงมงาย–ความศรัทธาในแบบที่ไม่ทำร้ายใคร”
    และเป็นเพียงเครื่องมือให้มนุษย์
    ได้มองย้อนกลับเข้าไปในใจตนเองเท่านั้น
    🌼🌼🌼🌼🌼
    🌸 เพื่อให้ชัดเจนและตรงกัน…
    หากท่านพบเห็นศาสตร์ใด ๆ ที่เชื่อมโยงกับชื่อ
    “พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ”
    ขอให้เข้าใจตรงกันไว้ดังนี้:
    🌱 1. ทุกศาสตร์คือศาสตร์แห่งความเชื่อส่วนบุคคลล้วน ๆ
    เป็นความศรัทธา
    เป็นแนวคิด
    เป็นความงมงายที่ไม่ได้อ้างเหตุผลรองรับ
    และไม่พยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยตรรกะใด ๆ
    🍁 2. ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ไม่ใช่พุทธคุณ ไม่ใช่คำสอนของศาสนาใด ๆ
    • ไม่อ้างศาสดา
    • ไม่อ้างพลังศักดิ์สิทธิ์
    • ไม่ชี้ว่าอะไรถูกหรือผิดทางจิตวิญญาณ
    • ไม่อ้างบุญบาปเพื่อบังคับใคร
    🍁 3. ไม่มีการรับรองผลทุกชนิด
    • ไม่มีการยืนยัน
    • ไม่มีการรับประกัน
    • ไม่อ้างผลสำเร็จ
    • ไม่ผูกมัดให้เชื่อว่าต้องได้ผล
    🌿 4. ความงมงายประเภทนี้ คือ “งมงายที่ไม่ทำร้ายใคร”
    ไม่สร้างเคราะห์
    ไม่พาใครเดือดร้อน
    ไม่ทำให้ผู้ใดเสียผลประโยชน์
    จึงเป็นเพียงมิติของความเชื่อที่ไร้กรอบ
    ให้คนได้สำรวจใจตัวเองเท่านั้น
    🌼🌼🌼🌼🌼
    🕊️ และสุดท้าย… ความจริงที่ต้องเข้าใจ
    อย่าคาดหวังผลจากความงมงาย
    เพราะความงมงายคือ…
    • 🎐 จับต้องไม่ได้
    • 🎐 พิสูจน์ไม่ได้
    • 🎐 ยืนยันไม่ได้
    • 🎐 ไม่มีเหตุผลใดรองรับ
    แต่ในบางห้วงชีวิต
    สิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุด
    กลับกลายเป็นสิ่งที่ “แตะใจ” เราที่สุด
    ศรัทธาจึงเกิดขึ้นเสมอ
    จากสิ่งที่ไม่มีเหตุผลนั่นเอง
    🌼🌼🌼🌼🌼
    🌼ลายเซ็นทางจิตวิญญาณของพ่อครู
    ศาสตร์ทุกแขนงที่พ่อครูถ่ายทอด
    คือเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    ไม่ลอก ไม่เลียน ไม่ซ้ำใคร
    ไม่ควรนำไปเทียบกับสำนักอื่น
    ไม่ควรนำไปจัดเข้าฝ่ายตามที่โลกนิยาม
    เพราะทั้งหมดนี้
    คือ “ความเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ทำร้ายใคร”
    และเป็นพื้นที่ให้มนุษย์ได้รู้จักใจของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
    💛 จากใจ... พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
    💛 ID Line: aj.jiaranai
    🌗 “สายขาว–สายดำ” แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพเปรียบ… ไม่ใช่แก่นของความเชื่อ มนุษย์มักแบ่งวิชาออกเป็นสองขั้ว • สายขาว = ไม่ทำร้ายตน ไม่ทำร้ายผู้อื่น • สายดำ = ใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แม้จะแลกด้วยความเดือดร้อนของใครก็ตาม แต่ความจริงแล้ว… ทั้งหมดนี้คือเพียง “ฉลาก” ที่มนุษย์สร้างขึ้นตามความเชื่อของตน เพื่อจัดระเบียบโลกให้ตนเองเข้าใจง่ายขึ้น มากกว่าจะสะท้อนความจริงของจิตใจมนุษย์ เพราะในชีวิตจริง แสงกับเงามักซ้อนทับกัน คนที่บอกว่าตนเป็นสายขาว อาจหลงผิดทำร้ายคนอื่นด้วยความปรารถนาดี และคนที่ถูกเรียกว่าสายดำ อาจมีศรัทธาลึกซึ้งในสิ่งที่ตนทำ ดังนั้น “สายขาว–สายดำ” เป็นเพียง ความหมายที่สังคมมอบให้ ไม่ใช่ความหมายที่ความจริงมอบให้ 🌼🌼🌼🌼🌼 🌿 วิชาที่พ่อครูเจียระไนถ่ายทอด — ไม่จัดอยู่ในสายใดสายหนึ่งเลย ศาสตร์ วิชา และหลักสูตรที่พ่อครูถ่ายทอดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังจิต ญาณ เทียน น้ำมนต์ หรือโหราศาสตร์ใด ๆ มิได้ตั้งอยู่บนฐานของสายขาว–สายดำเลยแม้แต่น้อย เพราะวิชาเหล่านี้ ไม่มุ่งหวังให้ใครเดือดร้อน ไม่ก่อผลเสียแก่ตน ไม่ก่อโทษแก่ผู้อื่น ไม่ใช่เครื่องมือเพื่อชัยชนะเหนือใคร ไม่ใช่เส้นทางที่บังคับให้ผู้เรียนต้องไปเป็นอะไร ทั้งหมดนี้คือ “ความเชื่อ–ความงมงาย–ความศรัทธาในแบบที่ไม่ทำร้ายใคร” และเป็นเพียงเครื่องมือให้มนุษย์ ได้มองย้อนกลับเข้าไปในใจตนเองเท่านั้น 🌼🌼🌼🌼🌼 🌸 เพื่อให้ชัดเจนและตรงกัน… หากท่านพบเห็นศาสตร์ใด ๆ ที่เชื่อมโยงกับชื่อ “พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ” ขอให้เข้าใจตรงกันไว้ดังนี้: 🌱 1. ทุกศาสตร์คือศาสตร์แห่งความเชื่อส่วนบุคคลล้วน ๆ เป็นความศรัทธา เป็นแนวคิด เป็นความงมงายที่ไม่ได้อ้างเหตุผลรองรับ และไม่พยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยตรรกะใด ๆ 🍁 2. ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ไม่ใช่พุทธคุณ ไม่ใช่คำสอนของศาสนาใด ๆ • ไม่อ้างศาสดา • ไม่อ้างพลังศักดิ์สิทธิ์ • ไม่ชี้ว่าอะไรถูกหรือผิดทางจิตวิญญาณ • ไม่อ้างบุญบาปเพื่อบังคับใคร 🍁 3. ไม่มีการรับรองผลทุกชนิด • ไม่มีการยืนยัน • ไม่มีการรับประกัน • ไม่อ้างผลสำเร็จ • ไม่ผูกมัดให้เชื่อว่าต้องได้ผล 🌿 4. ความงมงายประเภทนี้ คือ “งมงายที่ไม่ทำร้ายใคร” ไม่สร้างเคราะห์ ไม่พาใครเดือดร้อน ไม่ทำให้ผู้ใดเสียผลประโยชน์ จึงเป็นเพียงมิติของความเชื่อที่ไร้กรอบ ให้คนได้สำรวจใจตัวเองเท่านั้น 🌼🌼🌼🌼🌼 🕊️ และสุดท้าย… ความจริงที่ต้องเข้าใจ อย่าคาดหวังผลจากความงมงาย เพราะความงมงายคือ… • 🎐 จับต้องไม่ได้ • 🎐 พิสูจน์ไม่ได้ • 🎐 ยืนยันไม่ได้ • 🎐 ไม่มีเหตุผลใดรองรับ แต่ในบางห้วงชีวิต สิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุด กลับกลายเป็นสิ่งที่ “แตะใจ” เราที่สุด ศรัทธาจึงเกิดขึ้นเสมอ จากสิ่งที่ไม่มีเหตุผลนั่นเอง 🌼🌼🌼🌼🌼 🌼ลายเซ็นทางจิตวิญญาณของพ่อครู ศาสตร์ทุกแขนงที่พ่อครูถ่ายทอด คือเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ลอก ไม่เลียน ไม่ซ้ำใคร ไม่ควรนำไปเทียบกับสำนักอื่น ไม่ควรนำไปจัดเข้าฝ่ายตามที่โลกนิยาม เพราะทั้งหมดนี้ คือ “ความเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ทำร้ายใคร” และเป็นพื้นที่ให้มนุษย์ได้รู้จักใจของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น 💛 จากใจ... พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ 💛 ID Line: aj.jiaranai
    1
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
ผู้สนับสนุน

กาลโยคเทียนเลือกงาน

🔘 เรียนวิชาสร้างความเฮงความโชคดีเรื่องงาน สร้างโชคลาภเรื่องงาน สร้างความสมหวังเรื่องงาน ปูพื้นฐานจาก 0 ใคร ๆ ก็เรียนได้ ง่ายนิดเดียว