💗 เรียนให้นักศึกษาทราบทุกท่านโดยทั่วกันอีกครั้งหนึ่งว่า...
🌟 รูปแบบธรรมเนียมในการแสดงน้ำใจ แสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ จะเป็นไปตามยุคสมัย
🌟 เป็นไปตามลำดับดังต่อไปนี้...
1.วิชาที่เรียนกับครูในทาง Online ไม่ต้องขึ้นพานครูใด ๆ ทั้งสิ้น
ในอดีต การเรียนเป็นแบบ Offline นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนโดยตรง
ต่อหน้าครู จะมีการนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู
ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ ให้ครูได้ทำสอนความรู้ให้
การถวายครูในแบบอดีต เป็นธรรมเนียมแสดงความเคารพ แสดงความกตัญญู
โดยการนำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมปัจจัยถวายครู ใส่พานยื่นให้ครู เป็นการแสดงน้ำใจของศิษย์ ต่อครู ในเบื้องต้น
2.ในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป การเรียนเปลี่ยนจากการเรียนในแบบ Offline เปลี่ยนเป็นการเรียนกับครูในทาง Online
การนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ
ได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนปัจจัยบูชาครู ผ่านระบบออนไลน์แทนการนำบูชาครูแบบอดีตที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ
3.การจัดพานครู ในแบบตามความเชื่อ เวลาจะทำการเล่าเรียนวิชา อันเป็นการจัดพานโดยส่วนตัว ตามความเชื่อ
ที่จะทำการจัดบูชาโดยตนเอง แบบนี้ไม่เรียกว่าพานครู แต่จะเรียกว่า "พานบูชาวิชาครู" จะมีหลักว่า....
บางวิชาก็อาจจะมีข้อบ่งบอกเอาไว้ว่า ต้องจัดด้วยสิ่งใดบ้าง ก็ให้ทำตามนั้น บางวิชา แค่บอกว่าให้จัด
แต่ไม่บอกว่าให้จัดแบบใด ด้วยสิ่งใด แสดงถึงว่า ให้นึกและจัดขึ้นเอง ตามแต่ใจของแต่ละท่าน
โดยกระทำเช่นใดก็ไม่มีความผิดใด บางวิชา มีความเรียบง่าย ไม่ระบุให้จัดพานใด ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจัด
หรือถ้าผู้เรียน หรือผู้ใช้วิชาคิดจะจัด ก็ไม่มีข้อห้ามใด ๆ และไม่มีความผิดใด ๆ แม้ทั้งสิ้นนั่นเองครับ
4.การไหว้ครู จะมีการไหว้ใน 2 แบบ ได้แก่....
๑. ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา เช่น....
การกล่าวคำบูชาในแบบที่มีการเรียงข้อความบทความให้ทำการท่องจำกล่าวบทความบ้าง คาถาบ้าง
ทั้งที่เรียงขึ้นเอง หรือที่มีแบบให้ท่องเอาไว้แต่เดิม และอาจมีการจัดอุปกรณ์อื่นทำเป็นพิธีการก็มี
วัตถุประสงค์เพื่อต้องการพรจากครู หรือแรงครู ตามความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมา
๒. การไหว้ครู ในแบบปฏิบัติบูชา ได้แก่...
การที่นำวิชาไปให้แล้วเอ่ยชื่อครูในทุกครั้งที่ใช้วิชา
การนำเอาวิชาไปใช้แล้ว บอกกับทุกคนที่มาให้ช่วยว่า วิชาที่ใช้นั้น ได้รับความรู้มาจากครูคนใด
การนำวิชาไปใช้แล้วเกิดผลดีต่อตนเองและผู้อื่น แล้วทำการนำปัจจัยในส่วนที่ได้จากการบูชาครูของศิษย์ที่มาให้ช่วย จัดแบ่งบางส่วนตามแต่ใจ ถวายครูในแบบนำมายื่นให้ หรือปัจจุบันโอนให้
🌟 ตั้งแต่ในอดีตโบราณ ครูบาอาจารย์ทุกคน ต่างยกย่องว่า การไหว้ครู "ในแบบปฏิบัติบูชา" เป็นสิ่งที่ดีเลิศสำหรับศิษย์ผู้กตัญญู และมุ่งหวังความเจริญในพรครูอย่างแท้จริง ดียิ่งกว่าการ "ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา" หลายร้อยเท่าตัวนัก เรียกง่าย ๆ ว่า "การไหว้ครูในแบบอามิชบูชา 100 ครั้ง" ก็สู้การไหว้ครูใน "แบบปฏิบัติบูชา เพียง 1 ครั้งก็มิได้" นั่นเองครับ(ท่านใดถนัดในแบบใด ก็สุดแล้วแต่ความชอบและความเชื่อเลยครับ หรือจะกระทำทั้ง 2 อย่างเลยก็ไม่ผิดอะไรครับ)
🌟 รูปแบบธรรมเนียมในการแสดงน้ำใจ แสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ จะเป็นไปตามยุคสมัย
🌟 เป็นไปตามลำดับดังต่อไปนี้...
1.วิชาที่เรียนกับครูในทาง Online ไม่ต้องขึ้นพานครูใด ๆ ทั้งสิ้น
ในอดีต การเรียนเป็นแบบ Offline นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนโดยตรง
ต่อหน้าครู จะมีการนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู
ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ ให้ครูได้ทำสอนความรู้ให้
การถวายครูในแบบอดีต เป็นธรรมเนียมแสดงความเคารพ แสดงความกตัญญู
โดยการนำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมปัจจัยถวายครู ใส่พานยื่นให้ครู เป็นการแสดงน้ำใจของศิษย์ ต่อครู ในเบื้องต้น
2.ในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป การเรียนเปลี่ยนจากการเรียนในแบบ Offline เปลี่ยนเป็นการเรียนกับครูในทาง Online
การนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ
ได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนปัจจัยบูชาครู ผ่านระบบออนไลน์แทนการนำบูชาครูแบบอดีตที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ
3.การจัดพานครู ในแบบตามความเชื่อ เวลาจะทำการเล่าเรียนวิชา อันเป็นการจัดพานโดยส่วนตัว ตามความเชื่อ
ที่จะทำการจัดบูชาโดยตนเอง แบบนี้ไม่เรียกว่าพานครู แต่จะเรียกว่า "พานบูชาวิชาครู" จะมีหลักว่า....
บางวิชาก็อาจจะมีข้อบ่งบอกเอาไว้ว่า ต้องจัดด้วยสิ่งใดบ้าง ก็ให้ทำตามนั้น บางวิชา แค่บอกว่าให้จัด
แต่ไม่บอกว่าให้จัดแบบใด ด้วยสิ่งใด แสดงถึงว่า ให้นึกและจัดขึ้นเอง ตามแต่ใจของแต่ละท่าน
โดยกระทำเช่นใดก็ไม่มีความผิดใด บางวิชา มีความเรียบง่าย ไม่ระบุให้จัดพานใด ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจัด
หรือถ้าผู้เรียน หรือผู้ใช้วิชาคิดจะจัด ก็ไม่มีข้อห้ามใด ๆ และไม่มีความผิดใด ๆ แม้ทั้งสิ้นนั่นเองครับ
4.การไหว้ครู จะมีการไหว้ใน 2 แบบ ได้แก่....
๑. ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา เช่น....
การกล่าวคำบูชาในแบบที่มีการเรียงข้อความบทความให้ทำการท่องจำกล่าวบทความบ้าง คาถาบ้าง
ทั้งที่เรียงขึ้นเอง หรือที่มีแบบให้ท่องเอาไว้แต่เดิม และอาจมีการจัดอุปกรณ์อื่นทำเป็นพิธีการก็มี
วัตถุประสงค์เพื่อต้องการพรจากครู หรือแรงครู ตามความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมา
๒. การไหว้ครู ในแบบปฏิบัติบูชา ได้แก่...
การที่นำวิชาไปให้แล้วเอ่ยชื่อครูในทุกครั้งที่ใช้วิชา
การนำเอาวิชาไปใช้แล้ว บอกกับทุกคนที่มาให้ช่วยว่า วิชาที่ใช้นั้น ได้รับความรู้มาจากครูคนใด
การนำวิชาไปใช้แล้วเกิดผลดีต่อตนเองและผู้อื่น แล้วทำการนำปัจจัยในส่วนที่ได้จากการบูชาครูของศิษย์ที่มาให้ช่วย จัดแบ่งบางส่วนตามแต่ใจ ถวายครูในแบบนำมายื่นให้ หรือปัจจุบันโอนให้
🌟 ตั้งแต่ในอดีตโบราณ ครูบาอาจารย์ทุกคน ต่างยกย่องว่า การไหว้ครู "ในแบบปฏิบัติบูชา" เป็นสิ่งที่ดีเลิศสำหรับศิษย์ผู้กตัญญู และมุ่งหวังความเจริญในพรครูอย่างแท้จริง ดียิ่งกว่าการ "ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา" หลายร้อยเท่าตัวนัก เรียกง่าย ๆ ว่า "การไหว้ครูในแบบอามิชบูชา 100 ครั้ง" ก็สู้การไหว้ครูใน "แบบปฏิบัติบูชา เพียง 1 ครั้งก็มิได้" นั่นเองครับ(ท่านใดถนัดในแบบใด ก็สุดแล้วแต่ความชอบและความเชื่อเลยครับ หรือจะกระทำทั้ง 2 อย่างเลยก็ไม่ผิดอะไรครับ)
💗 เรียนให้นักศึกษาทราบทุกท่านโดยทั่วกันอีกครั้งหนึ่งว่า...
🌟 รูปแบบธรรมเนียมในการแสดงน้ำใจ แสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ จะเป็นไปตามยุคสมัย
🌟 เป็นไปตามลำดับดังต่อไปนี้...
1.วิชาที่เรียนกับครูในทาง Online ไม่ต้องขึ้นพานครูใด ๆ ทั้งสิ้น
ในอดีต การเรียนเป็นแบบ Offline นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนโดยตรง
ต่อหน้าครู จะมีการนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู
ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ ให้ครูได้ทำสอนความรู้ให้
การถวายครูในแบบอดีต เป็นธรรมเนียมแสดงความเคารพ แสดงความกตัญญู
โดยการนำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมปัจจัยถวายครู ใส่พานยื่นให้ครู เป็นการแสดงน้ำใจของศิษย์ ต่อครู ในเบื้องต้น
2.ในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป การเรียนเปลี่ยนจากการเรียนในแบบ Offline เปลี่ยนเป็นการเรียนกับครูในทาง Online
การนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเท่าที่จะหาได้ พร้อมปัจจัยบูชาครู ทำการถวายบูชาครูเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ในวิชานั้น ๆ
ได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนปัจจัยบูชาครู ผ่านระบบออนไลน์แทนการนำบูชาครูแบบอดีตที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ
3.การจัดพานครู ในแบบตามความเชื่อ เวลาจะทำการเล่าเรียนวิชา อันเป็นการจัดพานโดยส่วนตัว ตามความเชื่อ
ที่จะทำการจัดบูชาโดยตนเอง แบบนี้ไม่เรียกว่าพานครู แต่จะเรียกว่า "พานบูชาวิชาครู" จะมีหลักว่า....
บางวิชาก็อาจจะมีข้อบ่งบอกเอาไว้ว่า ต้องจัดด้วยสิ่งใดบ้าง ก็ให้ทำตามนั้น บางวิชา แค่บอกว่าให้จัด
แต่ไม่บอกว่าให้จัดแบบใด ด้วยสิ่งใด แสดงถึงว่า ให้นึกและจัดขึ้นเอง ตามแต่ใจของแต่ละท่าน
โดยกระทำเช่นใดก็ไม่มีความผิดใด บางวิชา มีความเรียบง่าย ไม่ระบุให้จัดพานใด ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจัด
หรือถ้าผู้เรียน หรือผู้ใช้วิชาคิดจะจัด ก็ไม่มีข้อห้ามใด ๆ และไม่มีความผิดใด ๆ แม้ทั้งสิ้นนั่นเองครับ
4.การไหว้ครู จะมีการไหว้ใน 2 แบบ ได้แก่....
๑. ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา เช่น....
การกล่าวคำบูชาในแบบที่มีการเรียงข้อความบทความให้ทำการท่องจำกล่าวบทความบ้าง คาถาบ้าง
ทั้งที่เรียงขึ้นเอง หรือที่มีแบบให้ท่องเอาไว้แต่เดิม และอาจมีการจัดอุปกรณ์อื่นทำเป็นพิธีการก็มี
วัตถุประสงค์เพื่อต้องการพรจากครู หรือแรงครู ตามความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมา
๒. การไหว้ครู ในแบบปฏิบัติบูชา ได้แก่...
การที่นำวิชาไปให้แล้วเอ่ยชื่อครูในทุกครั้งที่ใช้วิชา
การนำเอาวิชาไปใช้แล้ว บอกกับทุกคนที่มาให้ช่วยว่า วิชาที่ใช้นั้น ได้รับความรู้มาจากครูคนใด
การนำวิชาไปใช้แล้วเกิดผลดีต่อตนเองและผู้อื่น แล้วทำการนำปัจจัยในส่วนที่ได้จากการบูชาครูของศิษย์ที่มาให้ช่วย จัดแบ่งบางส่วนตามแต่ใจ ถวายครูในแบบนำมายื่นให้ หรือปัจจุบันโอนให้
🌟 ตั้งแต่ในอดีตโบราณ ครูบาอาจารย์ทุกคน ต่างยกย่องว่า การไหว้ครู "ในแบบปฏิบัติบูชา" เป็นสิ่งที่ดีเลิศสำหรับศิษย์ผู้กตัญญู และมุ่งหวังความเจริญในพรครูอย่างแท้จริง ดียิ่งกว่าการ "ไหว้ครูในแบบอามิชบูชา" หลายร้อยเท่าตัวนัก เรียกง่าย ๆ ว่า "การไหว้ครูในแบบอามิชบูชา 100 ครั้ง" ก็สู้การไหว้ครูใน "แบบปฏิบัติบูชา เพียง 1 ครั้งก็มิได้" นั่นเองครับ(ท่านใดถนัดในแบบใด ก็สุดแล้วแต่ความชอบและความเชื่อเลยครับ หรือจะกระทำทั้ง 2 อย่างเลยก็ไม่ผิดอะไรครับ)