🍁ที่มาของคำว่า “ค่าครู”..
🌷มาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ถึงคำว่า... “ค่าครู” อันเป็นค่าครูในศาสตร์ของความเชื่อในทุกแขนง เช่น ค่าครูโหราศาสตร์ ค่าครูมนต์ ค่าครูยันต์ และอื่นฯลฯ
🚩"ค่าครู" ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน แต่ค่าครู เป็นการแสดงออกถึง "ความกตัญญูของศิษย์" หรือผู้ที่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์ ด้วยเหตุนี้ ค่าครู จึงเป็นเสมือนหนึ่งบุตรในทางความรู้ ที่จะแสดงความกตัญญูให้ครูได้เห็นเป็นที่ประจักรว่า... “มีความเหมาะสมเพียงใดที่จะให้ความรู้” และควรให้ความรู้มากน้อยเพียงใดจึงจะเหมาะสมกับความกตัญญูของลูกในการรับความรู้ ผู้ที่มาขอเล่าเรียนจึงเป็นประหนึ่งบุตรของผู้ให้วิชา จึงมีคำเรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” นั่นเองครับ
ค่าครู จะไปตามยุคตามสมัย เป็นไปเพื่อบิดาแห่งความรู้จะครองชีวิตอยู่ได้ ด้วยความกตัญญูของลูกผู้รับความรู้ หรือที่เรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” เมื่อสมัยโบราณ 200 ถึง 300 ร้อยปีขึ้นไปในอดีตที่ผ่านมาของไทย จะให้ศิษย์บูชาครูแสดงความกตัญญูในการรับวิชาด้วยการกระทำ 2 ประการ ได้แก่.... 1.ค่าบูชาครู ในแบบปัจจัยใส่พาน จะเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละครู ในแต่ละวิชา ในแต่ละที่ โดยยึดครอบครัวครู ให้อยู่ได้ โดยอาศัยสภาวะค่าใช้จ่ายของในแต่ละยุค เช่น ยุคเมื่อสมัย 200 ปี ถึง 300 ปีขึ้นไปที่ผ่านมา ราคาข้าวสารถังละ 1 บาท หรือไม่ถึงบาท โดยค่าเงินในยุคนั้น การเรียกค่าครู 6 บาท ถึง 12 บาท ก็ถือว่าเยอะมาก ๆ เพราะซื้อข้าวสารได้ตั้งหลายถัง ศิษย์บางคน อยากได้ความรู้ไปดูแลตนเอง และครอบครัว รวมถึงผู้อื่นด้วย บางคนยากจน ไม่สามารถเรียนได้ด้วยการจัดปัจจัยถวายบูชาครูเรียน จึงขออาสาทำงานที่บ้านครู เพื่อเป็นค่าครูเรียนแทน ด้วยการอาสาทำงานที่ครูได้ทำแทนครู เพื่อแบ่งเบาความเหนื่อยของครู จึงเป็นที่มาของค่าครูประการที่ 2 ได้แก่.... 2.ค่าครูในแบบการทำการดูและครูช่วยขวนขวายในกิจการของครู เป็นการแสดงความกตัญญู เพื่อขอรับความรู้ แทนการบูชาครูด้วยปัจจัย
ในยุคปัจจุบัน คุณค่าของวัตถุ เข้ามามีอำนาจเหนือจิตใจของใครต่อใครหลาย ๆ คน ทำให้บางคนไม่เข้าใจคำว่า “ค่าครู” และยังเหมารวมไปอีกด้วยว่า... “ค่าครูคือค่าเรียน” อันเป็นการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง ครูจะขอยกตัวอย่างของเคสที่ครูสอนเป็นตัวอย่างครับ... เมื่อก่อนที่จะเป็นระบบออนไลน์ นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนที่ชมรม "ต้องยกพานครู ถวายค่าบูชาครู เป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์" ปัจจุบันไม่ได้มาหาโดยตรง การยกพานครู ก็ปรับเป็นโอนค่าครูครับ โดยครูให้โอนบูชาครูฝาตัวศิษย์แห่งความรู้ในวิชาต่าง ๆ เพียงวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ซึ่งการบูชาครูเรียนวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ถ้าเทียบกับค่าครูยุคโบราณ ที่ 6 บาท ซื้อเข้าสารได้หลายถังในการดูแลความเป็นอยู่ของครูในยุคโบราณ แต่ค่าครูที่ครูให้โอนบูชา 299-500 บาท ซื้อข้าวสารได้ไม่ถึงถัง ถือว่าค่าครูต่ำว่าเมื่อสมัยโบราณมากมายนัก(อย่าใช้ตัวเลขเข้าเปรียบเทียบนะครับ ให้ใช้ข้าวของในการใช้บริโภคเป็นหลัก) และในยุคสมัยปัจจุบันที่ผ่านมาก่อนยุคโควิดระบาด นักศึกษาที่เดินทางมาเรียนกับครูที่ชมรม ครูก็เน้นสอนฟรี! โดยมีการให้ศิษย์หาซื้อพานครู หาซื้อดอกไม้ ธูป เทียน และใส่ปัจจัยตามอัตภาพตามความสะดวกของศิษย์ แล้วให้ทำการยกพานถวายฝากตัวเรียนในแต่ละครั้ง ในแต่ละวิชา แต่ถึงแม้จะให้เรียนกันแบบเน้นสอนฟรี! แต่ศิษย์ในแต่ละท่านที่เดินทางมาเรียน ก็มีค่าเดินทาง ไป-กลับ มาเรียนที่ชมรม บางท่านมีรถเองก็มีค่าน้ำมัน ไม่ขับรถมาเองก็มีค่าแทกซี่ ไป-กลับ เกินกว่า 299-500 บาท ปัจจุบัน ยุคภาวะเปลี่ยนไป การเดินทางมาเรียน แม้ครูจะเน้นนโยบายให้เรียนฟรี! แต่ก็ต้องมีบูชาครูฝากตัวเป็นศิษย์ในแต่ละวิชาตามปกติ แต่การบูชาครูได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนบูชาครูแทนการจัดพานครูมายกครูเหมือนในอดีต และเน้นสอนออนไลน์เป็นหลัก เพราะหากยังให้เดินทางมาเรียนเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา นอกเหนือจากนักศึกษาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อมาเรียน และจัดพานครู มาบูชาครูเรียนในแต่ละวิชาแล้ว ยังเสี่ยงต่อโควิด และความปลอดภัยในการเดินทางอีกด้วย ครูจึงทำการให้ศิษย์เรียนในแบบออนไลน์อยู่กับบ้าน 100% และวิชาที่ครูสอน เป็นวิชาที่สำคัญที่ในท้องตลาดไม่มีเรียน ไม่มีสอนกัน และการสอนของครูไม่มีกั๊ก สอนย่อให้เรียนกันจบง่าย ๆ ในแบบไม่ต้องเสียเวลา ไม่มีกั๊ก สอนจบในวิชาเลยในทุกวิชา ด้วยเหตุนี้ ที่ครูกล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งว่า... “ค่าครู” คือ การแสดงความกตัญญูของศิษย์ที่มีต่อครู ที่มีต่อวิชา ที่คู่ควรในศิษย์ที่จะได้รับความรู้กันไป จึงให้เข้าใจกันให้ได้อีกครั้งว่า.... “ค่าครู ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน” หากเป็นค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน อันเป็นวิชาที่หายาก และไม่มีสอนในตามท้องตลาด ไม่มีหรอกครับที่ค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน จะมีราคาเพียงแค่ 299-500 บาทต่อหนึ่งวิชา หรือคอร์สยาวต่อ 1 เดือน ในแต่ละวิชาจะต้องมีราคามากถึงหลักพัน หรือหลักหมื่นในบางวิชาด้วยซ้ำไปครับ ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ทำความเข้าใจกันให้ถ่องแท้ครับ เพราะบางคนวัตถุนิยมเข้าแทรกจนไม่เข้าใจธรรมเนียมความกตัญญูในแบบโบราณ ไม่เข้าใจความคู่ควรในการได้รับสืบทอดวิชา ถึงกับมาต่อรองค่าบูชาครูกันก็มีในบางคนในยุคนี้นั่นเองครับ จึงย้ำมาเพื่อให้เข้าใจกันอีกครั้งนั่นเองครับ “ย้ำว่า! ครูยังเน้นสอนฟรี! เช่นเดิม แต่ให้มีบูชาครูเรียนวิชาละ 299-500 บาท แทนการเดินทางมายกพานครูเรียนในแบบอดีต” นั่นเองครับ
🌷 ด้วยเหตุนี้ คำว่า "ค่าครู" จึงไม่สามารถยกเว้นผู้ใดได้แม้ทั้งสิ้น เพราะความกตัญญูเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติเสมอกันในทุกคน และมาตรฐานเดียวกันตลอดไป นั่นเองครับ
🏠 พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
🌳 ID Line: aj.jiaranai
🌷มาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ถึงคำว่า... “ค่าครู” อันเป็นค่าครูในศาสตร์ของความเชื่อในทุกแขนง เช่น ค่าครูโหราศาสตร์ ค่าครูมนต์ ค่าครูยันต์ และอื่นฯลฯ
🚩"ค่าครู" ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน แต่ค่าครู เป็นการแสดงออกถึง "ความกตัญญูของศิษย์" หรือผู้ที่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์ ด้วยเหตุนี้ ค่าครู จึงเป็นเสมือนหนึ่งบุตรในทางความรู้ ที่จะแสดงความกตัญญูให้ครูได้เห็นเป็นที่ประจักรว่า... “มีความเหมาะสมเพียงใดที่จะให้ความรู้” และควรให้ความรู้มากน้อยเพียงใดจึงจะเหมาะสมกับความกตัญญูของลูกในการรับความรู้ ผู้ที่มาขอเล่าเรียนจึงเป็นประหนึ่งบุตรของผู้ให้วิชา จึงมีคำเรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” นั่นเองครับ
ค่าครู จะไปตามยุคตามสมัย เป็นไปเพื่อบิดาแห่งความรู้จะครองชีวิตอยู่ได้ ด้วยความกตัญญูของลูกผู้รับความรู้ หรือที่เรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” เมื่อสมัยโบราณ 200 ถึง 300 ร้อยปีขึ้นไปในอดีตที่ผ่านมาของไทย จะให้ศิษย์บูชาครูแสดงความกตัญญูในการรับวิชาด้วยการกระทำ 2 ประการ ได้แก่.... 1.ค่าบูชาครู ในแบบปัจจัยใส่พาน จะเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละครู ในแต่ละวิชา ในแต่ละที่ โดยยึดครอบครัวครู ให้อยู่ได้ โดยอาศัยสภาวะค่าใช้จ่ายของในแต่ละยุค เช่น ยุคเมื่อสมัย 200 ปี ถึง 300 ปีขึ้นไปที่ผ่านมา ราคาข้าวสารถังละ 1 บาท หรือไม่ถึงบาท โดยค่าเงินในยุคนั้น การเรียกค่าครู 6 บาท ถึง 12 บาท ก็ถือว่าเยอะมาก ๆ เพราะซื้อข้าวสารได้ตั้งหลายถัง ศิษย์บางคน อยากได้ความรู้ไปดูแลตนเอง และครอบครัว รวมถึงผู้อื่นด้วย บางคนยากจน ไม่สามารถเรียนได้ด้วยการจัดปัจจัยถวายบูชาครูเรียน จึงขออาสาทำงานที่บ้านครู เพื่อเป็นค่าครูเรียนแทน ด้วยการอาสาทำงานที่ครูได้ทำแทนครู เพื่อแบ่งเบาความเหนื่อยของครู จึงเป็นที่มาของค่าครูประการที่ 2 ได้แก่.... 2.ค่าครูในแบบการทำการดูและครูช่วยขวนขวายในกิจการของครู เป็นการแสดงความกตัญญู เพื่อขอรับความรู้ แทนการบูชาครูด้วยปัจจัย
ในยุคปัจจุบัน คุณค่าของวัตถุ เข้ามามีอำนาจเหนือจิตใจของใครต่อใครหลาย ๆ คน ทำให้บางคนไม่เข้าใจคำว่า “ค่าครู” และยังเหมารวมไปอีกด้วยว่า... “ค่าครูคือค่าเรียน” อันเป็นการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง ครูจะขอยกตัวอย่างของเคสที่ครูสอนเป็นตัวอย่างครับ... เมื่อก่อนที่จะเป็นระบบออนไลน์ นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนที่ชมรม "ต้องยกพานครู ถวายค่าบูชาครู เป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์" ปัจจุบันไม่ได้มาหาโดยตรง การยกพานครู ก็ปรับเป็นโอนค่าครูครับ โดยครูให้โอนบูชาครูฝาตัวศิษย์แห่งความรู้ในวิชาต่าง ๆ เพียงวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ซึ่งการบูชาครูเรียนวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ถ้าเทียบกับค่าครูยุคโบราณ ที่ 6 บาท ซื้อเข้าสารได้หลายถังในการดูแลความเป็นอยู่ของครูในยุคโบราณ แต่ค่าครูที่ครูให้โอนบูชา 299-500 บาท ซื้อข้าวสารได้ไม่ถึงถัง ถือว่าค่าครูต่ำว่าเมื่อสมัยโบราณมากมายนัก(อย่าใช้ตัวเลขเข้าเปรียบเทียบนะครับ ให้ใช้ข้าวของในการใช้บริโภคเป็นหลัก) และในยุคสมัยปัจจุบันที่ผ่านมาก่อนยุคโควิดระบาด นักศึกษาที่เดินทางมาเรียนกับครูที่ชมรม ครูก็เน้นสอนฟรี! โดยมีการให้ศิษย์หาซื้อพานครู หาซื้อดอกไม้ ธูป เทียน และใส่ปัจจัยตามอัตภาพตามความสะดวกของศิษย์ แล้วให้ทำการยกพานถวายฝากตัวเรียนในแต่ละครั้ง ในแต่ละวิชา แต่ถึงแม้จะให้เรียนกันแบบเน้นสอนฟรี! แต่ศิษย์ในแต่ละท่านที่เดินทางมาเรียน ก็มีค่าเดินทาง ไป-กลับ มาเรียนที่ชมรม บางท่านมีรถเองก็มีค่าน้ำมัน ไม่ขับรถมาเองก็มีค่าแทกซี่ ไป-กลับ เกินกว่า 299-500 บาท ปัจจุบัน ยุคภาวะเปลี่ยนไป การเดินทางมาเรียน แม้ครูจะเน้นนโยบายให้เรียนฟรี! แต่ก็ต้องมีบูชาครูฝากตัวเป็นศิษย์ในแต่ละวิชาตามปกติ แต่การบูชาครูได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนบูชาครูแทนการจัดพานครูมายกครูเหมือนในอดีต และเน้นสอนออนไลน์เป็นหลัก เพราะหากยังให้เดินทางมาเรียนเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา นอกเหนือจากนักศึกษาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อมาเรียน และจัดพานครู มาบูชาครูเรียนในแต่ละวิชาแล้ว ยังเสี่ยงต่อโควิด และความปลอดภัยในการเดินทางอีกด้วย ครูจึงทำการให้ศิษย์เรียนในแบบออนไลน์อยู่กับบ้าน 100% และวิชาที่ครูสอน เป็นวิชาที่สำคัญที่ในท้องตลาดไม่มีเรียน ไม่มีสอนกัน และการสอนของครูไม่มีกั๊ก สอนย่อให้เรียนกันจบง่าย ๆ ในแบบไม่ต้องเสียเวลา ไม่มีกั๊ก สอนจบในวิชาเลยในทุกวิชา ด้วยเหตุนี้ ที่ครูกล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งว่า... “ค่าครู” คือ การแสดงความกตัญญูของศิษย์ที่มีต่อครู ที่มีต่อวิชา ที่คู่ควรในศิษย์ที่จะได้รับความรู้กันไป จึงให้เข้าใจกันให้ได้อีกครั้งว่า.... “ค่าครู ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน” หากเป็นค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน อันเป็นวิชาที่หายาก และไม่มีสอนในตามท้องตลาด ไม่มีหรอกครับที่ค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน จะมีราคาเพียงแค่ 299-500 บาทต่อหนึ่งวิชา หรือคอร์สยาวต่อ 1 เดือน ในแต่ละวิชาจะต้องมีราคามากถึงหลักพัน หรือหลักหมื่นในบางวิชาด้วยซ้ำไปครับ ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ทำความเข้าใจกันให้ถ่องแท้ครับ เพราะบางคนวัตถุนิยมเข้าแทรกจนไม่เข้าใจธรรมเนียมความกตัญญูในแบบโบราณ ไม่เข้าใจความคู่ควรในการได้รับสืบทอดวิชา ถึงกับมาต่อรองค่าบูชาครูกันก็มีในบางคนในยุคนี้นั่นเองครับ จึงย้ำมาเพื่อให้เข้าใจกันอีกครั้งนั่นเองครับ “ย้ำว่า! ครูยังเน้นสอนฟรี! เช่นเดิม แต่ให้มีบูชาครูเรียนวิชาละ 299-500 บาท แทนการเดินทางมายกพานครูเรียนในแบบอดีต” นั่นเองครับ
🌷 ด้วยเหตุนี้ คำว่า "ค่าครู" จึงไม่สามารถยกเว้นผู้ใดได้แม้ทั้งสิ้น เพราะความกตัญญูเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติเสมอกันในทุกคน และมาตรฐานเดียวกันตลอดไป นั่นเองครับ
🏠 พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
🌳 ID Line: aj.jiaranai
🍁ที่มาของคำว่า “ค่าครู”..
🌷มาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ถึงคำว่า... “ค่าครู” อันเป็นค่าครูในศาสตร์ของความเชื่อในทุกแขนง เช่น ค่าครูโหราศาสตร์ ค่าครูมนต์ ค่าครูยันต์ และอื่นฯลฯ
🚩"ค่าครู" ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน แต่ค่าครู เป็นการแสดงออกถึง "ความกตัญญูของศิษย์" หรือผู้ที่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์ ด้วยเหตุนี้ ค่าครู จึงเป็นเสมือนหนึ่งบุตรในทางความรู้ ที่จะแสดงความกตัญญูให้ครูได้เห็นเป็นที่ประจักรว่า... “มีความเหมาะสมเพียงใดที่จะให้ความรู้” และควรให้ความรู้มากน้อยเพียงใดจึงจะเหมาะสมกับความกตัญญูของลูกในการรับความรู้ ผู้ที่มาขอเล่าเรียนจึงเป็นประหนึ่งบุตรของผู้ให้วิชา จึงมีคำเรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” นั่นเองครับ
ค่าครู จะไปตามยุคตามสมัย เป็นไปเพื่อบิดาแห่งความรู้จะครองชีวิตอยู่ได้ ด้วยความกตัญญูของลูกผู้รับความรู้ หรือที่เรียกกันว่า... “ลูกศิษย์” เมื่อสมัยโบราณ 200 ถึง 300 ร้อยปีขึ้นไปในอดีตที่ผ่านมาของไทย จะให้ศิษย์บูชาครูแสดงความกตัญญูในการรับวิชาด้วยการกระทำ 2 ประการ ได้แก่.... 1.ค่าบูชาครู ในแบบปัจจัยใส่พาน จะเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละครู ในแต่ละวิชา ในแต่ละที่ โดยยึดครอบครัวครู ให้อยู่ได้ โดยอาศัยสภาวะค่าใช้จ่ายของในแต่ละยุค เช่น ยุคเมื่อสมัย 200 ปี ถึง 300 ปีขึ้นไปที่ผ่านมา ราคาข้าวสารถังละ 1 บาท หรือไม่ถึงบาท โดยค่าเงินในยุคนั้น การเรียกค่าครู 6 บาท ถึง 12 บาท ก็ถือว่าเยอะมาก ๆ เพราะซื้อข้าวสารได้ตั้งหลายถัง ศิษย์บางคน อยากได้ความรู้ไปดูแลตนเอง และครอบครัว รวมถึงผู้อื่นด้วย บางคนยากจน ไม่สามารถเรียนได้ด้วยการจัดปัจจัยถวายบูชาครูเรียน จึงขออาสาทำงานที่บ้านครู เพื่อเป็นค่าครูเรียนแทน ด้วยการอาสาทำงานที่ครูได้ทำแทนครู เพื่อแบ่งเบาความเหนื่อยของครู จึงเป็นที่มาของค่าครูประการที่ 2 ได้แก่.... 2.ค่าครูในแบบการทำการดูและครูช่วยขวนขวายในกิจการของครู เป็นการแสดงความกตัญญู เพื่อขอรับความรู้ แทนการบูชาครูด้วยปัจจัย
ในยุคปัจจุบัน คุณค่าของวัตถุ เข้ามามีอำนาจเหนือจิตใจของใครต่อใครหลาย ๆ คน ทำให้บางคนไม่เข้าใจคำว่า “ค่าครู” และยังเหมารวมไปอีกด้วยว่า... “ค่าครูคือค่าเรียน” อันเป็นการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง ครูจะขอยกตัวอย่างของเคสที่ครูสอนเป็นตัวอย่างครับ... เมื่อก่อนที่จะเป็นระบบออนไลน์ นักศึกษาต้องเดินทางมาเรียนที่ชมรม "ต้องยกพานครู ถวายค่าบูชาครู เป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์" ปัจจุบันไม่ได้มาหาโดยตรง การยกพานครู ก็ปรับเป็นโอนค่าครูครับ โดยครูให้โอนบูชาครูฝาตัวศิษย์แห่งความรู้ในวิชาต่าง ๆ เพียงวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ซึ่งการบูชาครูเรียนวิชาละ หรือคอร์สยาวเดือนละ 299-500 บาท ถ้าเทียบกับค่าครูยุคโบราณ ที่ 6 บาท ซื้อเข้าสารได้หลายถังในการดูแลความเป็นอยู่ของครูในยุคโบราณ แต่ค่าครูที่ครูให้โอนบูชา 299-500 บาท ซื้อข้าวสารได้ไม่ถึงถัง ถือว่าค่าครูต่ำว่าเมื่อสมัยโบราณมากมายนัก(อย่าใช้ตัวเลขเข้าเปรียบเทียบนะครับ ให้ใช้ข้าวของในการใช้บริโภคเป็นหลัก) และในยุคสมัยปัจจุบันที่ผ่านมาก่อนยุคโควิดระบาด นักศึกษาที่เดินทางมาเรียนกับครูที่ชมรม ครูก็เน้นสอนฟรี! โดยมีการให้ศิษย์หาซื้อพานครู หาซื้อดอกไม้ ธูป เทียน และใส่ปัจจัยตามอัตภาพตามความสะดวกของศิษย์ แล้วให้ทำการยกพานถวายฝากตัวเรียนในแต่ละครั้ง ในแต่ละวิชา แต่ถึงแม้จะให้เรียนกันแบบเน้นสอนฟรี! แต่ศิษย์ในแต่ละท่านที่เดินทางมาเรียน ก็มีค่าเดินทาง ไป-กลับ มาเรียนที่ชมรม บางท่านมีรถเองก็มีค่าน้ำมัน ไม่ขับรถมาเองก็มีค่าแทกซี่ ไป-กลับ เกินกว่า 299-500 บาท ปัจจุบัน ยุคภาวะเปลี่ยนไป การเดินทางมาเรียน แม้ครูจะเน้นนโยบายให้เรียนฟรี! แต่ก็ต้องมีบูชาครูฝากตัวเป็นศิษย์ในแต่ละวิชาตามปกติ แต่การบูชาครูได้เปลี่ยนไปเป็นการโอนบูชาครูแทนการจัดพานครูมายกครูเหมือนในอดีต และเน้นสอนออนไลน์เป็นหลัก เพราะหากยังให้เดินทางมาเรียนเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา นอกเหนือจากนักศึกษาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อมาเรียน และจัดพานครู มาบูชาครูเรียนในแต่ละวิชาแล้ว ยังเสี่ยงต่อโควิด และความปลอดภัยในการเดินทางอีกด้วย ครูจึงทำการให้ศิษย์เรียนในแบบออนไลน์อยู่กับบ้าน 100% และวิชาที่ครูสอน เป็นวิชาที่สำคัญที่ในท้องตลาดไม่มีเรียน ไม่มีสอนกัน และการสอนของครูไม่มีกั๊ก สอนย่อให้เรียนกันจบง่าย ๆ ในแบบไม่ต้องเสียเวลา ไม่มีกั๊ก สอนจบในวิชาเลยในทุกวิชา ด้วยเหตุนี้ ที่ครูกล่าวมาทั้งหมด เพื่อให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งว่า... “ค่าครู” คือ การแสดงความกตัญญูของศิษย์ที่มีต่อครู ที่มีต่อวิชา ที่คู่ควรในศิษย์ที่จะได้รับความรู้กันไป จึงให้เข้าใจกันให้ได้อีกครั้งว่า.... “ค่าครู ไม่ใช่ค่าเรียน ไม่ใช่ค่าจ้างสอน” หากเป็นค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน อันเป็นวิชาที่หายาก และไม่มีสอนในตามท้องตลาด ไม่มีหรอกครับที่ค่าเรียน หรือค่าจ้างสอน จะมีราคาเพียงแค่ 299-500 บาทต่อหนึ่งวิชา หรือคอร์สยาวต่อ 1 เดือน ในแต่ละวิชาจะต้องมีราคามากถึงหลักพัน หรือหลักหมื่นในบางวิชาด้วยซ้ำไปครับ ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ทำความเข้าใจกันให้ถ่องแท้ครับ เพราะบางคนวัตถุนิยมเข้าแทรกจนไม่เข้าใจธรรมเนียมความกตัญญูในแบบโบราณ ไม่เข้าใจความคู่ควรในการได้รับสืบทอดวิชา ถึงกับมาต่อรองค่าบูชาครูกันก็มีในบางคนในยุคนี้นั่นเองครับ จึงย้ำมาเพื่อให้เข้าใจกันอีกครั้งนั่นเองครับ “ย้ำว่า! ครูยังเน้นสอนฟรี! เช่นเดิม แต่ให้มีบูชาครูเรียนวิชาละ 299-500 บาท แทนการเดินทางมายกพานครูเรียนในแบบอดีต” นั่นเองครับ
🌷 ด้วยเหตุนี้ คำว่า "ค่าครู" จึงไม่สามารถยกเว้นผู้ใดได้แม้ทั้งสิ้น เพราะความกตัญญูเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติเสมอกันในทุกคน และมาตรฐานเดียวกันตลอดไป นั่นเองครับ
🏠 พ่อครูเจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
🌳 ID Line: aj.jiaranai
Thai
English
French
Spanish
Portuguese
Deutsch
Turkish
Dutch
Italiano
Russian
Romaian
Greek
Arabic
Japanese