• ปั้น Tiktok ให้โตไว กับ 6 เทคนิคเพิ่มยอดฟอลฯ และเพิ่มยอดวิวบน Tiktok
    หากพูดถึงสื่อโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานสูงอย่างมาก หนึ่งในนั้นก็จะต้องมีแพลตฟอร์ม Tiktok ติดอันดับอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Tiktok ไม่เหมือนใครก็คืออัตราการเข้าถึงวิดีโอที่ทรงพลังสุด ๆ อย่างผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่ยังไม่มีใครติดตามมากนัก ก็อาจมีผู้ชมได้ถึงหลักร้อยเลยทีเดียว แต่สำหรับใครที่อยากจะมียอดผู้ติดตาม และยอดวิวมากขึ้นแบบปังๆ ก็พลาดไม่ได้กับบทความนี้เลย เพราะเราจะมาแนะนำวิธีเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok รวมถึงวิธีเพิ่มยอดวิวแบบไม่ต้องเสียเงินกันสักบาท แถมได้ผลจริง!
    1. โพสต์ให้ถูกเวลา
    เช่นเดียวกับการโพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลฯ อื่น ๆ ที่คุณก็ควรจะโพสต์ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในที่นี้ก็คือเวลาที่ผู้ชมของคุณออนไลน์นั่นเอง แนะนำว่าให้โพสต์ในช่วงที่ทุกคนมักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งาน เช่น เวลาเดินทาง เวลาพัก หรือเวลาหลังเลิกงาน ซึ่งก็จะเป็นช่วงเวลาประมาณ 6.00 น.-8.00 น., 13.00 น.-16.00 น. และช่วงหลัง 20.00 น. สำหรับวันธรรมดา ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็จะเป็นช่วง 10.00 น. และหลัง 20.00 น. ซึ่งการโพสต์ในช่วงเวลาเหล่านี้ก็จะทำให้คุณมีโอกาสในการเพิ่มยอดวิว tiktok ได้แบบฟรี ๆ มากขึ้นถึง 30%
    2. ติด Hashtag
    อีกหนึ่งวิธีเพิ่มยอดวิว Tiktok ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกันก็คือการติด Hashtag เพื่อทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกค้นเจอได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากการติด Hashtag ก็เหมือนการที่คุณได้เพิ่มคอนเทนต์ของคุณไปยังหมวดหมู่นั้น ๆ แต่ Hashtag ที่ใส่ลงไปก็ควรจะเป็น Hashtag ที่มีความเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ หรืออาจเป็น Hashtag ที่กำลังมาแรง
    3. ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์
    สำหรับการทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้ชมของคุณก็ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยเพิ่มยอดวิว Tiktok ได้เป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีเพิ่มผู้ติดตามใน Tiktok ที่ได้ผลอย่างมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนเข้ามาดูคอนเทนต์ของคุณ และรู้สึกว่าคอนเทนต์นั้น ๆ ให้ทั้งความบันเทิง และได้ประโยชน์ ก็จะทำให้คนอยากติดตามคุณมากขึ้นนั่นเอง
    4. เกาะติดเทรนด์
    การเกาะติดเทรนด์นั้นแน่นอนว่าจะช่วยให้คนเห็นคลิปของคุณมากยิ่งขึ้น แถมยังอาจทำให้คลิปของคุณเป็นไวรัลได้ภายในชั่วข้ามคืน แต่การจะสร้างคลิปหรือคอนเทนต์ที่ตามเทรนด์นั้น ก็ต้องมาควบคู่กับการใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้วคอนเทนต์ของคุณก็อาจไม่ต่างจากคนอื่น และควรจะทำคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายร่วมด้วย ไม่ใช่ว่าตามเทรนด์ไปซะทุกเรื่อง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มยอดฟอลฯ บน Tiktok ได้ไม่ยาก
    5. แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ
    การเพิ่มยอดวิวหรือเพิ่มยอดฟอลฯ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำการโปรโมตคอนเทนต์ของคุณบนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น แต่คุณสามารถเลือกโปรโมตที่ไหนก็ได้ เพื่อดึงคนดูจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ มา โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, M2face ฯลฯ ที่ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานจะมีลักษณะต่างกันไป แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจทำให้บัญชีของคุณเติบโตได้ไวขึ้น
    6. โพสต์อย่างสม่ำเสมอ
    ยิ่งคุณอยากเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok หรือเพิ่มยอดวิว Tiktok ให้ได้ไว ๆ ก็ยิ่งต้องมีความสม่ำเสมอ สำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ อาจจะโพสต์แค่วันละครั้งเท่านั้น แต่สำหรับ Tiktok แล้ว จำนวนครั้งที่ดีและเหมาะสมที่สุดจะอยู่ที่ 2-5 คอนเทนต์ต่อวัน แต่อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคลิปที่ยาวมากนัก เพราะผู้ชมใน Tiktok ชอบที่จะดูคอนเทนต์ที่สั้น แต่สร้างสรรค์มากกว่า
    วิธีเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok และวิธีเพิ่มยอดวิวทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ? เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมไปลองทำตามกัน แค่โพสต์ให้ถูกเวลา, ติด Hashtag, ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์, เกาะติดเทรนด์, แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ ถ้าทำได้ตามนี้ก็ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่เดือน คุณอาจจะกลายเป็นดาว Tiktok ก็ได้นะ
    ปั้น Tiktok ให้โตไว กับ 6 เทคนิคเพิ่มยอดฟอลฯ และเพิ่มยอดวิวบน Tiktok หากพูดถึงสื่อโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานสูงอย่างมาก หนึ่งในนั้นก็จะต้องมีแพลตฟอร์ม Tiktok ติดอันดับอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Tiktok ไม่เหมือนใครก็คืออัตราการเข้าถึงวิดีโอที่ทรงพลังสุด ๆ อย่างผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่ยังไม่มีใครติดตามมากนัก ก็อาจมีผู้ชมได้ถึงหลักร้อยเลยทีเดียว แต่สำหรับใครที่อยากจะมียอดผู้ติดตาม และยอดวิวมากขึ้นแบบปังๆ ก็พลาดไม่ได้กับบทความนี้เลย เพราะเราจะมาแนะนำวิธีเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok รวมถึงวิธีเพิ่มยอดวิวแบบไม่ต้องเสียเงินกันสักบาท แถมได้ผลจริง! 1. โพสต์ให้ถูกเวลา เช่นเดียวกับการโพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลฯ อื่น ๆ ที่คุณก็ควรจะโพสต์ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในที่นี้ก็คือเวลาที่ผู้ชมของคุณออนไลน์นั่นเอง แนะนำว่าให้โพสต์ในช่วงที่ทุกคนมักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งาน เช่น เวลาเดินทาง เวลาพัก หรือเวลาหลังเลิกงาน ซึ่งก็จะเป็นช่วงเวลาประมาณ 6.00 น.-8.00 น., 13.00 น.-16.00 น. และช่วงหลัง 20.00 น. สำหรับวันธรรมดา ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็จะเป็นช่วง 10.00 น. และหลัง 20.00 น. ซึ่งการโพสต์ในช่วงเวลาเหล่านี้ก็จะทำให้คุณมีโอกาสในการเพิ่มยอดวิว tiktok ได้แบบฟรี ๆ มากขึ้นถึง 30% 2. ติด Hashtag อีกหนึ่งวิธีเพิ่มยอดวิว Tiktok ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกันก็คือการติด Hashtag เพื่อทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกค้นเจอได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากการติด Hashtag ก็เหมือนการที่คุณได้เพิ่มคอนเทนต์ของคุณไปยังหมวดหมู่นั้น ๆ แต่ Hashtag ที่ใส่ลงไปก็ควรจะเป็น Hashtag ที่มีความเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ หรืออาจเป็น Hashtag ที่กำลังมาแรง 3. ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ สำหรับการทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้ชมของคุณก็ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยเพิ่มยอดวิว Tiktok ได้เป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีเพิ่มผู้ติดตามใน Tiktok ที่ได้ผลอย่างมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนเข้ามาดูคอนเทนต์ของคุณ และรู้สึกว่าคอนเทนต์นั้น ๆ ให้ทั้งความบันเทิง และได้ประโยชน์ ก็จะทำให้คนอยากติดตามคุณมากขึ้นนั่นเอง 4. เกาะติดเทรนด์ การเกาะติดเทรนด์นั้นแน่นอนว่าจะช่วยให้คนเห็นคลิปของคุณมากยิ่งขึ้น แถมยังอาจทำให้คลิปของคุณเป็นไวรัลได้ภายในชั่วข้ามคืน แต่การจะสร้างคลิปหรือคอนเทนต์ที่ตามเทรนด์นั้น ก็ต้องมาควบคู่กับการใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้วคอนเทนต์ของคุณก็อาจไม่ต่างจากคนอื่น และควรจะทำคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายร่วมด้วย ไม่ใช่ว่าตามเทรนด์ไปซะทุกเรื่อง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มยอดฟอลฯ บน Tiktok ได้ไม่ยาก 5. แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ การเพิ่มยอดวิวหรือเพิ่มยอดฟอลฯ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำการโปรโมตคอนเทนต์ของคุณบนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น แต่คุณสามารถเลือกโปรโมตที่ไหนก็ได้ เพื่อดึงคนดูจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ มา โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, M2face ฯลฯ ที่ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานจะมีลักษณะต่างกันไป แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจทำให้บัญชีของคุณเติบโตได้ไวขึ้น 6. โพสต์อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งคุณอยากเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok หรือเพิ่มยอดวิว Tiktok ให้ได้ไว ๆ ก็ยิ่งต้องมีความสม่ำเสมอ สำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ อาจจะโพสต์แค่วันละครั้งเท่านั้น แต่สำหรับ Tiktok แล้ว จำนวนครั้งที่ดีและเหมาะสมที่สุดจะอยู่ที่ 2-5 คอนเทนต์ต่อวัน แต่อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคลิปที่ยาวมากนัก เพราะผู้ชมใน Tiktok ชอบที่จะดูคอนเทนต์ที่สั้น แต่สร้างสรรค์มากกว่า วิธีเพิ่มยอดฟอลฯ Tiktok และวิธีเพิ่มยอดวิวทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ? เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมไปลองทำตามกัน แค่โพสต์ให้ถูกเวลา, ติด Hashtag, ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์, เกาะติดเทรนด์, แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ ถ้าทำได้ตามนี้ก็ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่เดือน คุณอาจจะกลายเป็นดาว Tiktok ก็ได้นะ
    1
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
  • *กฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
    - กฎหมาย คือข้อบังคับ กติกาของรัฐหรือของชาติ กำหนดขึ้นมาเพื่อใช้บังคับ ควบคุม ความประพฤติของบุคคลในสังคม ให้ปฏิบัติตาม หากมีการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดและได้รับโทษตามที่กำหนดไว้
    - กฎหมายแพ่ง เป็นกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องบุคคล ทรัพย์สิน นิติกรรม สัญญา ละเมิด ครอบครัว และมรดก ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย
    กฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิดและโทษ โดยกำหนดผู้กระทำผิดจะได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด
    - กฎหมายอาญา จึงมีความสำคัญช่วยให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย

    *กฎหมายเกี่ยวกับบุคคล
    - บุคคล หมายถึง สิ่งที่กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิหน้าที่ได้ตามกฎหมาย
    สภาพบุคคลเริ่มต้นตั้งแต่แรกคลอดเป็นทารกและสิ้นสุดสภาพบุคคลเมื่อตายหรือสาบสูญตาม คำสั่งของศาล
    - การสาบสูญ คือ การหายจากภูมิลำเนาในภาวะปกติเกิน 7 ปี หรือหายจากภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น เรืออับปาง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3 ปี ถือว่าเป็นคนสาบสูญได้ ในกรณีที่ผู้สาบสูญกลับมา สามารถขอร้องต่อศาลให้ถอนคำสั่งสาบสูญได้
    บุคคลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
    1. บุคคลธรรมดา หมายถึง บุคคลที่มีความสามารถ สามารถทำนิติกรรมได้ตามที่กฎหมายกำหนด
    ส่วนประกอบของสภาพบุคคล
    1. ชื่อตัว – ชื่อสกุล
    2. สัญชาติ ได้มาโดยการเกิด การสมรส การแปลงชาติ
    3. ภูมิลำเนา คือถิ่นที่อยู่ประจำและแน่นอนของบุคคล
    4. สถานะ คือ ฐานะของบุคคลตามกฎหมายซึ่งทำให้เกิดสิทธิ เช่น โสด สมรส หย่า
    2. นิติบุคคล หมายถึง หมู่คนหรือสิ่งที่กฎหมายรับรองสภาพอย่างบุคคลธรรมดา และมีสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบในนามของกิจการ เช่น กระทรวง ทบวง กรม บริษัท สมาคม มูลนิธิ และวัด เป็นต้น

    *ทรัพย์และทรัพย์สิน
    - ทรัพย์ หมายถึง วัตถุ หรือสิ่งที่มีรูปร่าง
    - ทรัพย์สิน หมายถึง ทรัพย์และวัตถุที่ไม่มีรูปร่าง เช่น ลิขสิทธิ์ (ทรัพย์สินทางปัญญา)
    - ประเภทของทรัพย์สิน
    1. อสังหาริมทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
    2. สังหาริมทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้

    *นิติกรรม
    นิติกรรม คือการแสดงเจตนาผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิ์ หลักการทำนิติกรรม
    1. มีการแสดงเจตนาของบุคคล โดยการพูด เขียน หรือการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
    2. การกระทำนั้นต้องทำด้วยความสมัครใจ
    3. มีเจตนาที่จะให้เกิดผลตามกฎหมาย

    *นิติกรรมที่เป็นโมฆะและโมฆียะ
    1. นิติกรรมที่เป็น โมฆะ คือ นิติกรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่เกิดผลทางกฎหมาย
    2. นิติกรรมที่เป็น โมฆียะ คือ นิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะถูกบอกล้าง เช่น นิติกรรมที่ผู้เยาว์กระทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม เมื่อมีการบอกล้างแล้ว โมฆียะกรรมจะกลายเป็นโมฆะ

    *สัญญาต่างๆ และประเภทของสัญญา
    สัญญาซื้อขายธรรมดา แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
    1. คำมั่นว่าจะซื้อหรือจะขาย คือ มีการให้คำมั่นเสนอว่าจะซื้อหรือจะขาย
    2. สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาตกลงกันในสาระสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขาย
    3. สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด คือ เป็นสัญญาที่ตกลงกันตามสาระสำคัญของสัญญากันเรียบร้อยแล้ว

    *สัญญาซื้อขายเฉพาะอย่าง แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
    1. สัญญาซื้อขายเงินสด คือ สัญญาที่ผู้ซื้อตกลงชำระราคาสินค้าเป็นเงินสดทันที เมื่อมีการซื้อขายกัน
    2. สัญญาซื้อขายผ่อนส่ง คือ สัญญาการซื้อขายที่มีการส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อแล้ว แต่ผู้ซื้อยังไม่ได้ชำระราคา อาจตกลงผ่อนชำระเป็นงวด ๆ
    3. สัญญาขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายที่ผู้ขายฝากต้องการเงินจำนวนหนึ่งจากผู้ซื้อ จึงนำทรัพย์สินมาโอนให้กับผู้ซื้อฝาก และผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ทรัพย์สินกับคืนได้ภายในเวลาที่ตกลงกันไว้ หากครบกำหนดไถ่คืนแล้ว ผู้ขายฝากไม่มาไถ่คืน ทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของผู้ซื้อฝากโดยเด็ดขาด
    4. การขายทอดตลาด คือ การซื้อขายที่ประกาศให้ประชาชนมาประมูลซื้อสู้ราคากันโดยเปิดเผย ประกอบด้วยบุคคล 4 ฝ่าย คือ
    – ผู้ขายซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือผู้มีอำนาจขายทรัพย์สินได้
    – ผู้ทอดตลาด
    – ผู้สู้ราคา
    – ผู้ซื้อ

    *สัญญาเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ แบ่งออกเป็น
    1. สัญญาเช่าทรัพย์
    – ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นตัวหนังสือ
    – ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ
    2. สัญญาเช่าซื้อ คือ สัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์นั้นให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินหรือจะให้ทรัพย์นั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่าซื้อ โดยมีเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว การทำสัญญาเช่าซื้อต้องทำหนังสือลงลายมือชื่อในสัญญาทั้งสองฝ่าย

    *สัญญากู้ยืมเงิน
    เป็นสัญญาที่ผู้กู้และผู้ให้กู้ได้ตกลงกันในการยืมเงินและจะคืนเงินให้ตามเวลาที่กำหนดไว้โดยมีการเสียดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานลงลายมือชื่อผู้กู้ไว้เป็นสำคัญ

    *กฎหมายเกี่ยวกับครอบครัว
    - การหมั้น คือ การทำสัญญาระหว่างชายหญิงว่าจะสมรสกัน จะทำได้เมื่อชายและหญิงอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ถ้าชายและหญิงเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
    - การสมรส การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์หากมีอายุต่ำกว่านี้ต้องศาลอนุญาต
    - ทรัพย์สินของสามีและภรรยา แบ่งเป็น
    1. สินส่วนตัว คือ ทรัพย์สินที่สามีหรือภรรยามีก่อนสมรส
    2. สินสมรส คือ ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการสมรส
    การสิ้นสุดการสมรส
    1. ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะ
    2. คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่กรรม
    3. การหย่า

    – สิทธิและหน้าที่ของบิดาและมารดา บิดามารดามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตร
    – สิทธิและหน้าที่ของบุตร บุตรมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเป็นการตอบแทน

    *กฎหมายเรื่องมรดก
    มรดก คือ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่าง ๆ ของผู้ตายหรือเจ้าของมรดก ซึ่งเมื่อเจ้าของมรดกถึงแก่ความตาย มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาททันทีที่ตาย
    ทายาท คือ ผู้มีสิทธิได้รับมรดก 2 ประเภท
    1. ทายาทโดยธรรม คู่สมรสและญาติสนิท
    2. ทายาทตามพินัยกรรม ผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกตามพินัยกรรมระบุไว้
    พินัยกรรม คือ เอกสารที่เจ้าของมรดกแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์

    กฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
    1. กฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ เป็นการกำหนดสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ของบุคคล
    สิทธิ หมายถึง ประโยชน์ซึ่งกฎหมายรับรอง คุ้มครองให้กับบุคคล เช่น สิทธิทางการเมือง สิทธิในทรัพย์สิน
    เสรีภาพ หมายถึง การกระทำของบุคคลที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย เช่น เสรีภาพในร่างกาย เสรีภาพในการพูด การพิมพ์ การเขียน การนับถือศาสนา
    หน้าที่ คือ สิ่งที่บุคคลจะต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำ ในฐานะสมาชิกของรัฐ เช่น การเสียภาษีอากร การป้องกันประเทศ
    2. กฎหมายเลือกตั้ง เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อควบคุมการจัดและดำเนินการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและยุติธรรม
    3. กฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์
    – เมื่อมีคนเกิดต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน
    – เมื่อมีคนตายต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 24 ชม.
    – เมื่อย้ายที่อยู่อาศัยต้องแจ้งภายใน 15 วัน
    4. กฎหมายเกี่ยวกับบัตรประชาชน
    – บุคคลที่มีสัญชาติไทยอายุ ตั้งแต่ 7 ปี จนถึงอายุ 70 ปี และนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ (7 เมษายน) นั้น ล่าสุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน ตามที่วุฒิสภาแก้ไขด้วยคะแนนเสียง 304 ต่อ 2
    – การเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ต้องขอทำบัตรใหม่ภายใน 60 วั น
    – บัตรสูญหายต้องขอเปลี่ยนใหม่ ภายใน 60 วัน
    – บุคคลที่ไม่ต้องมีบัตรประชาชน ได้แก่ พระภิกษุ ข้าราชการ นักโทษ และบุคคลที่มีอายุเกิน 70 ปี ขึ้นไป
    5. กฎหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร
    – ชายไทยที่มีสัญชาติไทย อายุย่างเข้า 18 ปีบริบูรณ์ ให้ไปแสดงตัวเพื่อลงบัญชีพลทหารกองเกินภายในเขตภูมิลำเนาของตน
    – เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกและต้องทำการตรวจเลือกเพื่อเข้าเป็นทหารกองประจำการตามกำหนดนัด
    *บุคคลที่ไม่ต้องเป็นทหารประจำการ ได้แก่ พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ คนพิการทุพพลภาพ บุคคลที่ขาดความสามารถบางประการที่ไม่อาจเป็นทหารได้
    6. กฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของชุมชน และสิ่งแวดล้อม
    – พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เช่น การสร้าง ดัดแปลง ต่อเติม รื้อถอน ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น
    – พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518
    – พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2522
    *กฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน - กฎหมาย คือข้อบังคับ กติกาของรัฐหรือของชาติ กำหนดขึ้นมาเพื่อใช้บังคับ ควบคุม ความประพฤติของบุคคลในสังคม ให้ปฏิบัติตาม หากมีการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดและได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ - กฎหมายแพ่ง เป็นกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องบุคคล ทรัพย์สิน นิติกรรม สัญญา ละเมิด ครอบครัว และมรดก ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย กฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิดและโทษ โดยกำหนดผู้กระทำผิดจะได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด - กฎหมายอาญา จึงมีความสำคัญช่วยให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย *กฎหมายเกี่ยวกับบุคคล - บุคคล หมายถึง สิ่งที่กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิหน้าที่ได้ตามกฎหมาย สภาพบุคคลเริ่มต้นตั้งแต่แรกคลอดเป็นทารกและสิ้นสุดสภาพบุคคลเมื่อตายหรือสาบสูญตาม คำสั่งของศาล - การสาบสูญ คือ การหายจากภูมิลำเนาในภาวะปกติเกิน 7 ปี หรือหายจากภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น เรืออับปาง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3 ปี ถือว่าเป็นคนสาบสูญได้ ในกรณีที่ผู้สาบสูญกลับมา สามารถขอร้องต่อศาลให้ถอนคำสั่งสาบสูญได้ บุคคลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. บุคคลธรรมดา หมายถึง บุคคลที่มีความสามารถ สามารถทำนิติกรรมได้ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนประกอบของสภาพบุคคล 1. ชื่อตัว – ชื่อสกุล 2. สัญชาติ ได้มาโดยการเกิด การสมรส การแปลงชาติ 3. ภูมิลำเนา คือถิ่นที่อยู่ประจำและแน่นอนของบุคคล 4. สถานะ คือ ฐานะของบุคคลตามกฎหมายซึ่งทำให้เกิดสิทธิ เช่น โสด สมรส หย่า 2. นิติบุคคล หมายถึง หมู่คนหรือสิ่งที่กฎหมายรับรองสภาพอย่างบุคคลธรรมดา และมีสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบในนามของกิจการ เช่น กระทรวง ทบวง กรม บริษัท สมาคม มูลนิธิ และวัด เป็นต้น *ทรัพย์และทรัพย์สิน - ทรัพย์ หมายถึง วัตถุ หรือสิ่งที่มีรูปร่าง - ทรัพย์สิน หมายถึง ทรัพย์และวัตถุที่ไม่มีรูปร่าง เช่น ลิขสิทธิ์ (ทรัพย์สินทางปัญญา) - ประเภทของทรัพย์สิน 1. อสังหาริมทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ 2. สังหาริมทรัพย์ หมายถึง ทรัพย์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ *นิติกรรม นิติกรรม คือการแสดงเจตนาผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิ์ หลักการทำนิติกรรม 1. มีการแสดงเจตนาของบุคคล โดยการพูด เขียน หรือการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย 2. การกระทำนั้นต้องทำด้วยความสมัครใจ 3. มีเจตนาที่จะให้เกิดผลตามกฎหมาย *นิติกรรมที่เป็นโมฆะและโมฆียะ 1. นิติกรรมที่เป็น โมฆะ คือ นิติกรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่เกิดผลทางกฎหมาย 2. นิติกรรมที่เป็น โมฆียะ คือ นิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะถูกบอกล้าง เช่น นิติกรรมที่ผู้เยาว์กระทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม เมื่อมีการบอกล้างแล้ว โมฆียะกรรมจะกลายเป็นโมฆะ *สัญญาต่างๆ และประเภทของสัญญา สัญญาซื้อขายธรรมดา แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. คำมั่นว่าจะซื้อหรือจะขาย คือ มีการให้คำมั่นเสนอว่าจะซื้อหรือจะขาย 2. สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาตกลงกันในสาระสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขาย 3. สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด คือ เป็นสัญญาที่ตกลงกันตามสาระสำคัญของสัญญากันเรียบร้อยแล้ว *สัญญาซื้อขายเฉพาะอย่าง แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ 1. สัญญาซื้อขายเงินสด คือ สัญญาที่ผู้ซื้อตกลงชำระราคาสินค้าเป็นเงินสดทันที เมื่อมีการซื้อขายกัน 2. สัญญาซื้อขายผ่อนส่ง คือ สัญญาการซื้อขายที่มีการส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อแล้ว แต่ผู้ซื้อยังไม่ได้ชำระราคา อาจตกลงผ่อนชำระเป็นงวด ๆ 3. สัญญาขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายที่ผู้ขายฝากต้องการเงินจำนวนหนึ่งจากผู้ซื้อ จึงนำทรัพย์สินมาโอนให้กับผู้ซื้อฝาก และผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ทรัพย์สินกับคืนได้ภายในเวลาที่ตกลงกันไว้ หากครบกำหนดไถ่คืนแล้ว ผู้ขายฝากไม่มาไถ่คืน ทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของผู้ซื้อฝากโดยเด็ดขาด 4. การขายทอดตลาด คือ การซื้อขายที่ประกาศให้ประชาชนมาประมูลซื้อสู้ราคากันโดยเปิดเผย ประกอบด้วยบุคคล 4 ฝ่าย คือ – ผู้ขายซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือผู้มีอำนาจขายทรัพย์สินได้ – ผู้ทอดตลาด – ผู้สู้ราคา – ผู้ซื้อ *สัญญาเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ แบ่งออกเป็น 1. สัญญาเช่าทรัพย์ – ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นตัวหนังสือ – ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ 2. สัญญาเช่าซื้อ คือ สัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์นั้นให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินหรือจะให้ทรัพย์นั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่าซื้อ โดยมีเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว การทำสัญญาเช่าซื้อต้องทำหนังสือลงลายมือชื่อในสัญญาทั้งสองฝ่าย *สัญญากู้ยืมเงิน เป็นสัญญาที่ผู้กู้และผู้ให้กู้ได้ตกลงกันในการยืมเงินและจะคืนเงินให้ตามเวลาที่กำหนดไว้โดยมีการเสียดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานลงลายมือชื่อผู้กู้ไว้เป็นสำคัญ *กฎหมายเกี่ยวกับครอบครัว - การหมั้น คือ การทำสัญญาระหว่างชายหญิงว่าจะสมรสกัน จะทำได้เมื่อชายและหญิงอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ถ้าชายและหญิงเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง - การสมรส การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์หากมีอายุต่ำกว่านี้ต้องศาลอนุญาต - ทรัพย์สินของสามีและภรรยา แบ่งเป็น 1. สินส่วนตัว คือ ทรัพย์สินที่สามีหรือภรรยามีก่อนสมรส 2. สินสมรส คือ ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการสมรส การสิ้นสุดการสมรส 1. ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะ 2. คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่กรรม 3. การหย่า – สิทธิและหน้าที่ของบิดาและมารดา บิดามารดามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตร – สิทธิและหน้าที่ของบุตร บุตรมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเป็นการตอบแทน *กฎหมายเรื่องมรดก มรดก คือ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่าง ๆ ของผู้ตายหรือเจ้าของมรดก ซึ่งเมื่อเจ้าของมรดกถึงแก่ความตาย มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาททันทีที่ตาย ทายาท คือ ผู้มีสิทธิได้รับมรดก 2 ประเภท 1. ทายาทโดยธรรม คู่สมรสและญาติสนิท 2. ทายาทตามพินัยกรรม ผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกตามพินัยกรรมระบุไว้ พินัยกรรม คือ เอกสารที่เจ้าของมรดกแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์ กฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน 1. กฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ เป็นการกำหนดสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ของบุคคล สิทธิ หมายถึง ประโยชน์ซึ่งกฎหมายรับรอง คุ้มครองให้กับบุคคล เช่น สิทธิทางการเมือง สิทธิในทรัพย์สิน เสรีภาพ หมายถึง การกระทำของบุคคลที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย เช่น เสรีภาพในร่างกาย เสรีภาพในการพูด การพิมพ์ การเขียน การนับถือศาสนา หน้าที่ คือ สิ่งที่บุคคลจะต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำ ในฐานะสมาชิกของรัฐ เช่น การเสียภาษีอากร การป้องกันประเทศ 2. กฎหมายเลือกตั้ง เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อควบคุมการจัดและดำเนินการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและยุติธรรม 3. กฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ – เมื่อมีคนเกิดต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน – เมื่อมีคนตายต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 24 ชม. – เมื่อย้ายที่อยู่อาศัยต้องแจ้งภายใน 15 วัน 4. กฎหมายเกี่ยวกับบัตรประชาชน – บุคคลที่มีสัญชาติไทยอายุ ตั้งแต่ 7 ปี จนถึงอายุ 70 ปี และนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ (7 เมษายน) นั้น ล่าสุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน ตามที่วุฒิสภาแก้ไขด้วยคะแนนเสียง 304 ต่อ 2 – การเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล ต้องขอทำบัตรใหม่ภายใน 60 วั น – บัตรสูญหายต้องขอเปลี่ยนใหม่ ภายใน 60 วัน – บุคคลที่ไม่ต้องมีบัตรประชาชน ได้แก่ พระภิกษุ ข้าราชการ นักโทษ และบุคคลที่มีอายุเกิน 70 ปี ขึ้นไป 5. กฎหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร – ชายไทยที่มีสัญชาติไทย อายุย่างเข้า 18 ปีบริบูรณ์ ให้ไปแสดงตัวเพื่อลงบัญชีพลทหารกองเกินภายในเขตภูมิลำเนาของตน – เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกและต้องทำการตรวจเลือกเพื่อเข้าเป็นทหารกองประจำการตามกำหนดนัด *บุคคลที่ไม่ต้องเป็นทหารประจำการ ได้แก่ พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ คนพิการทุพพลภาพ บุคคลที่ขาดความสามารถบางประการที่ไม่อาจเป็นทหารได้ 6. กฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของชุมชน และสิ่งแวดล้อม – พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เช่น การสร้าง ดัดแปลง ต่อเติม รื้อถอน ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น – พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 – พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2522
    2
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
  • 👁 เรียนนักศึกษาที่น่ารักทุกท่าน "เรื่องการทำการในระบบออนไลน์ ของ ครูเจียระไน และ ครูเนตรอินทรา" ติดต่อทางไลน์
    1.เวลาทำการตามปกติที่ติดต่อแล้วตอบกลับได้เร็ว จะเป็นช่วงเวลา 12:00.-17:00น. ถ้ามีการติดต่อขอรับไฟล์ หรือขอลงทะเบียนเรียนมา ก็จะมีการติดต่อกลับภายใน 1 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า ถ้าตอบกลับช้ากว่านั้น แสดงว่ามีคิวตอบอิ่น ๆ ยาวอยู่ก่อนแล้ว ให้รอนิด ติดต่อกลับแน่นอนครับ
    2.ถ้ามีการติดต่อตามข้อ 1 แล้ว หากติดต่อกับอาจารย์ท่านใด ให้รอการตอบกลับจากอาจารย์ท่านนั้นเท่านั่น อย่าไปติดต่อกับอีกท่านในเรื่องเดิมอย่างเด็ดขาด
    3.ถ้าติดต่อในเวลานอกทำการ คือ ก่อน 12:00น. หรือ หลัง 17:00น. อาจไม่มีการตอบกลับ หรืออาจตอบกลับเป็นกรณีพิเศษ ตอบช้า-ตอบเร็ว-ไม่ตอบ ก็เอาแน่ไม่ได้ สุดแล้วแต่ความสะดวกของอาจารย์ผู้ตอบนะครับ
    4.หากไม่มีการตอบกลับนอกเวลาทำการที่ได้ระบุเอาไว้ในข้อ 1 ก็จะมีการตอบกลับในเวลาทำการอย่างแน่นอนครับ ไม่ตกหล่นแน่นอนครับ ให้รอการตอบกลับในเวลาทำการครับ อย่าใจร้อนรอไม่ได้แล้วติดต่อคนนั้นคนนี้จนวุ่นไปหมดนะครับ
    🌟 จึงประกาศแจ้งให้ทราบ เพื่อเข้าใจเป็นบันทัดฐานตรงกันนั่นเองครับ
    🐲 ประกาศโดย.... ปรมาจารย์ เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
    ID Line: aj.jiaranai
    👁 เรียนนักศึกษาที่น่ารักทุกท่าน "เรื่องการทำการในระบบออนไลน์ ของ ครูเจียระไน และ ครูเนตรอินทรา" ติดต่อทางไลน์ 1.เวลาทำการตามปกติที่ติดต่อแล้วตอบกลับได้เร็ว จะเป็นช่วงเวลา 12:00.-17:00น. ถ้ามีการติดต่อขอรับไฟล์ หรือขอลงทะเบียนเรียนมา ก็จะมีการติดต่อกลับภายใน 1 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า ถ้าตอบกลับช้ากว่านั้น แสดงว่ามีคิวตอบอิ่น ๆ ยาวอยู่ก่อนแล้ว ให้รอนิด ติดต่อกลับแน่นอนครับ 2.ถ้ามีการติดต่อตามข้อ 1 แล้ว หากติดต่อกับอาจารย์ท่านใด ให้รอการตอบกลับจากอาจารย์ท่านนั้นเท่านั่น อย่าไปติดต่อกับอีกท่านในเรื่องเดิมอย่างเด็ดขาด 3.ถ้าติดต่อในเวลานอกทำการ คือ ก่อน 12:00น. หรือ หลัง 17:00น. อาจไม่มีการตอบกลับ หรืออาจตอบกลับเป็นกรณีพิเศษ ตอบช้า-ตอบเร็ว-ไม่ตอบ ก็เอาแน่ไม่ได้ สุดแล้วแต่ความสะดวกของอาจารย์ผู้ตอบนะครับ 4.หากไม่มีการตอบกลับนอกเวลาทำการที่ได้ระบุเอาไว้ในข้อ 1 ก็จะมีการตอบกลับในเวลาทำการอย่างแน่นอนครับ ไม่ตกหล่นแน่นอนครับ ให้รอการตอบกลับในเวลาทำการครับ อย่าใจร้อนรอไม่ได้แล้วติดต่อคนนั้นคนนี้จนวุ่นไปหมดนะครับ 🌟 จึงประกาศแจ้งให้ทราบ เพื่อเข้าใจเป็นบันทัดฐานตรงกันนั่นเองครับ 🐲 ประกาศโดย.... ปรมาจารย์ เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ ID Line: aj.jiaranai
    3
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
  • 👁 เรียนนักศึกษาที่น่ารักทุกท่าน "เรื่องการทำการในระบบออนไลน์ ของ ครูเจียระไน และ ครูเนตรอินทรา" ติดต่อทางไลน์
    1.เวลาทำการตามปกติที่ติดต่อแล้วตอบกลับได้เร็ว จะเป็นช่วงเวลา 12:00.-17:00น. ถ้ามีการติดต่อขอรับไฟล์ หรือขอลงทะเบียนเรียนมา ก็จะมีการติดต่อกลับภายใน 1 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า ถ้าตอบกลับช้ากว่านั้น แสดงว่ามีคิวตอบอิ่น ๆ ยาวอยู่ก่อนแล้ว ให้รอนิด ติดต่อกลับแน่นอนครับ
    2.ถ้ามีการติดต่อตามข้อ 1 แล้ว หากติดต่อกับอาจารย์ท่านใด ให้รอการตอบกลับจากอาจารย์ท่านนั้นเท่านั่น อย่าไปติดต่อกับอีกท่านในเรื่องเดิมอย่างเด็ดขาด
    3.ถ้าติดต่อในเวลานอกทำการ คือ ก่อน 12:00น. หรือ หลัง 17:00น. อาจไม่มีการตอบกลับ หรืออาจตอบกลับเป็นกรณีพิเศษ ตอบช้า-ตอบเร็ว-ไม่ตอบ ก็เอาแน่ไม่ได้ สุดแล้วแต่ความสะดวกของอาจารย์ผู้ตอบนะครับ
    4.หากไม่มีการตอบกลับนอกเวลาทำการที่ได้ระบุเอาไว้ในข้อ 1 ก็จะมีการตอบกลับในเวลาทำการอย่างแน่นอนครับ ไม่ตกหล่นแน่นอนครับ ให้รอการตอบกลับในเวลาทำการครับ อย่าใจร้อนรอไม่ได้แล้วติดต่อคนนั้นคนนี้จนวุ่นไปหมดนะครับ
    🌟 จึงประกาศแจ้งให้ทราบ เพื่อเข้าใจเป็นบันทัดฐานตรงกันนั่นเองครับ
    🐲 ประกาศโดย.... ปรมาจารย์ เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ
    ID Line: aj.jiaranai
    👁 เรียนนักศึกษาที่น่ารักทุกท่าน "เรื่องการทำการในระบบออนไลน์ ของ ครูเจียระไน และ ครูเนตรอินทรา" ติดต่อทางไลน์ 1.เวลาทำการตามปกติที่ติดต่อแล้วตอบกลับได้เร็ว จะเป็นช่วงเวลา 12:00.-17:00น. ถ้ามีการติดต่อขอรับไฟล์ หรือขอลงทะเบียนเรียนมา ก็จะมีการติดต่อกลับภายใน 1 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า ถ้าตอบกลับช้ากว่านั้น แสดงว่ามีคิวตอบอิ่น ๆ ยาวอยู่ก่อนแล้ว ให้รอนิด ติดต่อกลับแน่นอนครับ 2.ถ้ามีการติดต่อตามข้อ 1 แล้ว หากติดต่อกับอาจารย์ท่านใด ให้รอการตอบกลับจากอาจารย์ท่านนั้นเท่านั่น อย่าไปติดต่อกับอีกท่านในเรื่องเดิมอย่างเด็ดขาด 3.ถ้าติดต่อในเวลานอกทำการ คือ ก่อน 12:00น. หรือ หลัง 17:00น. อาจไม่มีการตอบกลับ หรืออาจตอบกลับเป็นกรณีพิเศษ ตอบช้า-ตอบเร็ว-ไม่ตอบ ก็เอาแน่ไม่ได้ สุดแล้วแต่ความสะดวกของอาจารย์ผู้ตอบนะครับ 4.หากไม่มีการตอบกลับนอกเวลาทำการที่ได้ระบุเอาไว้ในข้อ 1 ก็จะมีการตอบกลับในเวลาทำการอย่างแน่นอนครับ ไม่ตกหล่นแน่นอนครับ ให้รอการตอบกลับในเวลาทำการครับ อย่าใจร้อนรอไม่ได้แล้วติดต่อคนนั้นคนนี้จนวุ่นไปหมดนะครับ 🌟 จึงประกาศแจ้งให้ทราบ เพื่อเข้าใจเป็นบันทัดฐานตรงกันนั่นเองครับ 🐲 ประกาศโดย.... ปรมาจารย์ เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ ID Line: aj.jiaranai
    3
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
  • เหม่อมองฟ้าทางทิศตะวันออกวันนี้ ดูคล้ายนก หรือหงษ์ทีี่กำลังบินกลับรัง #เป็นคนที่ชอบมองฟ้า #ในเวลาที่มีเมฆลอย #พิเภกเบิกฟ้า #ดั้นเมฆาตะวันฉาย #นก #ฟ้า #เมฆ #เมฆา #ฟ้ามีคำตอบให้เราเสมอ เพียงแค่เปิดตามอง
    เหม่อมองฟ้าทางทิศตะวันออกวันนี้ ดูคล้ายนก หรือหงษ์ทีี่กำลังบินกลับรัง #เป็นคนที่ชอบมองฟ้า #ในเวลาที่มีเมฆลอย #พิเภกเบิกฟ้า #ดั้นเมฆาตะวันฉาย #นก #ฟ้า #เมฆ #เมฆา #ฟ้ามีคำตอบให้เราเสมอ เพียงแค่เปิดตามอง :person-in-lotus-position: :cloud: :sun-behind-cloud: :cloud:
    3
    0 ความคิดเห็น 0 เเชร์
ไม่มีข้อมูลที่จะแสดง
ไม่มีข้อมูลที่จะแสดง
ไม่มีข้อมูลที่จะแสดง
ไม่มีข้อมูลที่จะแสดง
ผู้สนับสนุน

กาลโยคเทียนเลือกงาน

🔘 เรียนวิชาสร้างความเฮงความโชคดีเรื่องงาน สร้างโชคลาภเรื่องงาน สร้างความสมหวังเรื่องงาน ปูพื้นฐานจาก 0 ใคร ๆ ก็เรียนได้ ง่ายนิดเดียว